Landry Dunand : ชีวิตทำมือของช่างภาพฝรั่งเศสผู้เดินทางมาแล้วทั่วโลก 3/3

รูปถ่ายที่
ดี ในทัศนะคุณเป็นยังไง
พูดยาก คำว่า ‘ดี’ มีหลายแบบ ผมขอยกตัวอย่างคนที่ชอบละกัน (ลุกไปหยิบหนังสือภาพ)
คุณลองดูภาพของคนนี้ เขาชื่อ Miroslav Tichý เป็นชาวรัสเซีย
รูปของเขาไม่สมบูรณ์สักภาพ เบลอ มีรอยแหว่งวิ่น เต็มไปด้วยคราบสกปรก แต่ผมชอบ
เพราะเขาทุ่มเททั้งชีวิตให้กับมัน เขาทำกรอบรูปด้วยตัวเอง สร้างกล้องขึ้นมา
เป็นกล้องโฮมเมด ไม่ใช้โปรแกรมแต่งภาพ เขาเป็นศิลปินอย่างแท้จริง
มีความเฉพาะตัวสูงมาก ผมมักหลงใหลอะไรแบบนี้

ถ้าต้องเขียนหนังสือสอนถ่ายภาพ
บทแรกคุณจะเขียนว่า
ผมคงเขียนอะไรไม่ได้นอกจากพยายาม พยายามทำผิด
พยายามทำพลาด พยายามล้มเหลว ไม่ว่าจะพลาดอีกครั้งก็ไม่เป็นไร
ครั้งหน้าพลาดให้ดีกว่าเดิม ศาสตร์การถ่ายภาพไม่มีกฎเกณฑ์ วัดกันที่ความรู้สึก
รูปที่ไม่ได้โฟกัสก็สวยได้ รูปที่แสงมากไปก็มีคนชอบ
บางครั้งความสวยก็มาจากความผิดพลาด มีตำหนิ พยายามหาสไตล์ของตัวเอง
อย่าเลียนแบบคนอื่น

ทุกวันนี้คุณยังต้องพยายามอยู่ไหม
เมื่อคืนผมยังถ่ายรูปอยู่เลย ผมถ่ายรูปทุกวัน
ทำไมต้องหยุดพยายามด้วยล่ะ แต่ปัจจุบันผมสนุกกับการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มขาวดำ 35 มิลลิเมตร ตั้งแต่ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่
ผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยกล้องรูเข็มสักเท่าไหร่ ครั้งล่าสุดน่าจะประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เพราะยังไม่มีห้องมืดเป็นของตัวเอง ผมอยากสร้างให้เสร็จก่อน

พูดถึงบ้าน
คุณเจอที่นี่ได้ยังไง
2 ปีที่แล้ว
ผมและภรรยามีทริปปั่นจักรยานระยะทางสั้นๆ ไปบางขุนเทียน เราผ่านที่นี่ มันดูดีมาก
ภายหลังภรรยาผมจึงกลับมาซื้อที่ดินให้เป็นของขวัญวันเกิด

สร้างบ้านสักหลัง
ตัดสินใจนานไหม
ไม่นะ จะไปทำให้ยากทำไม ชอบก็ซื้อ

ทำไมไม่ซื้อคอนโดฯ
อยู่ตามเส้นสุขุมวิทเหมือนชาวต่างชาติคนอื่นๆ
ที่นี่แตกต่างจากในเมือง
ผมเคยเช่าบ้านอยู่แถวเอกมัย อโศก แถวนั้นมีแต่ตึก น่าเบื่อมาก
เราอยากอยู่ในที่ที่สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด มองออกไปเห็นต้นไม้สีเขียว
ฟังเสียงนกร้อง ปั่นจักรยานได้โดยไม่ต้องกลัวรถชน เชื่อไหม
จากที่นี่ไปเอ็มโพเรียมใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ไม่ได้ล้อเล่น
ปั่นจักรยาน นั่งเรือ ต่อรถไฟฟ้า ผมมีนัดคุยงานแถวเอ็มโพเรียมบ่อยด้วย สะดวกมาก

อีกอย่าง ผมอยากเรียนรู้วัฒนธรรมไทยมากกว่านี้
อยู่ที่นี่ไม่กี่เดือน ผมเข้าใจวัฒนธรรมไทยมากกว่าตอนอยู่ในกรุงเทพฯ 5 ปีเสียอีก ที่นี่เป็นสังคมเล็กๆ มีกำนัน ผู้ใหญ่ในบ้าน
ซึ่งในเมืองไม่มีทางเห็น มันเป็นเมืองใหญ่เกินไป ต่างคนต่างอยู่

จนถึงวันนี้บ้านก็ยังไม่เสร็จ
ทำไมคุณไม่จ้างผู้รับเหมา ทำไมต้องสร้างบ้านด้วยตัวเอง
ความจริงก็มีจ้างช่างบ้านนะครับ ผนังที่เห็นก็มีคนช่วย แต่นอกเหนือจากนั้นผมทำเองทุกอย่าง เขียนแปลน ซื้อไม้
เลือกน็อต ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านหลังนี้
ผมมีส่วนกับทุกองค์ประกอบในบ้านตั้งแต่ต้นจนจบ
ผมกำลังจะติดโซลาร์เซลล์เพื่อจะได้ยกเลิกไฟฟ้า ทำน้ำอุ่นจากแสงอาทิตย์
ส้วมแบบไม่ใช้น้ำ ผมแค่อยากใช้ชีวิตที่ไม่ต้องพึ่งพาใครหรือผูกติดกับอะไรทั้งนั้น
เป็นชีวิตที่พึ่งตนเอง

ในยุคที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ
ประโยชน์ของการพึ่งตนเองคืออะไร
การเข้าใจในทุกสิ่งที่ทำ และควบคุมมันได้ดีกว่า
ผมได้ยินคนบ่นเรื่องโลกร้อนเยอะมาก ทุกคนพยายามเรียกร้องอะไรมากมาย
ผมไม่อยากบ่นหรือโทษใครทั้งนั้น แค่ทำตามวิถีที่เชื่อ ทำตามกำลังตัวเอง
ผมไม่เคยใช้ถุงพลาสติก ขี่จักรยานไปทำงาน อีกไม่นานผมจะปลูกผักที่นี่
ผมไม่อยากได้รับสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ผมอยากกินอาหารที่ดี
มันคงดีถ้าทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปขอร้องใคร เป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด
ถ้าอยากได้โต๊ะก็ทำสิ อยากได้บ้านไม้ ทำเลย

ไม่ต้องรอใครมาสร้างให้
ใช่ ทำเองง่ายกว่าเยอะ อาจจะเหนื่อยหน่อย
แต่ผมรับรองว่าคุณจะมีความสุข

แต่บางคนอ้างว่าไม่มีเวลา
มีการงานที่ต้องทำ
ชีวิตเป็นของคุณ คุณเลือกเอง ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ผมไม่ได้มีเวลามากกว่าคุณเสียหน่อย งานผมก็มี
เงินก็ต้องใช้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการจัดการ

ยกตัวอย่างการจัดการของคุณให้ฟังหน่อย
ทุกวันนี้ผมไม่อยากจะนอนเลยด้วยซ้ำ (หัวเราะ)
ผมทำงานหลายอย่างมาก… ก็ค่อยๆ ทำไปครับ จัดการในที่นี้ไม่ได้หมายความว่างานจะเสร็จชั่วพริบตา
มันต้องใช้เวลาทั้งนั้นแหละ ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน แต่ขอให้สม่ำเสมอ
ตอนที่เริ่มสร้างบ้านใหม่ๆ ผมก็ขี่จักรยานจากที่พักแถวซอยปรีดี พนมยงค์ มาที่นี่ 6 โมงเช้าทุกวัน มีความสุขมากที่ได้เห็นบ้านเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ

แล้วทำไมต้องอัพโหลดรูปบ้านตัวเองในบล็อกด้วย
ผมแค่อยากแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจว่าทุกคนสามารถสร้างบ้านเองได้
คุณไม่ต้องใช้เงินมาก ฝันก็เป็นจริงได้
ผมอยากแชร์ไอเดียให้เห็นว่าเราทำบ้านกันยังไง

คิดจะตั้งรกรากที่นี่เลยไหม
ผมไม่รู้ อนาคตไม่แน่นอน ผมอาจย้ายไปอยู่กับครอบครัวของภรรยาที่อเมริกาก็ได้
ศุกร์นี้ผมต้องบินไปอินโดนีเซีย 2 อาทิตย์
หลังจากนั้นไปงานแต่งงานเพื่อนที่อินเดีย 1 เดือน
และไปฮ่องกงอีก 1 อาทิตย์ เพราะภรรยาถูกเชิญไปพูดงาน TED
Talks ที่นั่น ก่อนหน้านี้ผมยังไม่รู้เลยว่าต้องไป
เราไม่มีแผนระยะยาวขนาดนั้นหรอก
ตอนแก่ผมอาจอยู่ที่ไหนสักแห่งและจำได้ว่าตอนที่คุณถามผม ผมตอบว่าไม่รู้

ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองเดินทางมากไปไหม
มากไป เป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว
เราเดินทางเป็นประจำจนรู้สึกว่านี่คือกิจวัตรประจำวัน ไม่ได้แยกออกจากชีวิตปกติ
ไม่ใช่ฮันนีมูน ระยะหลังเราเดินทางเพื่อทำธุระมากกว่าเพื่อท่องเที่ยว
ไม่ค่อยเดินทางเพื่อความสนุก ถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่อยากไปไหน อยากใช้เวลาอยู่ที่นี่
เพื่อจะได้เข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนไทยมากขึ้น

เห็นทุกอย่างแล้ว
เข้าใจโลกพอแล้ว
?
ความหมายของการเดินทางเราเปลี่ยน
ข้ามฝั่งจากที่นี่ไปกรุงเทพฯ ผมก็ถือเป็นการเดินทางนะ
วันนี้ได้เจอคุณก็เป็นการเดินทางเช่นกัน แค่คนละสถานที่
ความรู้สึกของการไปเอ็มโพเรียมไม่ได้ต่างจากไปไอซ์แลนด์ เราแค่อยากจะตั้งรกรากสักที่หนึ่งเพื่อทำโปรเจกต์เจ๋งๆ
สักอย่าง แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมจากที่นี่ไป 1
เดือน โปรเจกต์ที่เริ่มไปแล้วต้องสะดุดลง ต้องหยุดคุยกับคนที่ทำงานด้วย
พอเวลาผ่านไป กลับมาเขาก็ลืมไปแล้ว ต้องมาเริ่มใหม่ แล้วเราก็จากไปอีก
วนไปวนมาแบบนี้ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่เราเป็นอยู่

เราชอบเดินทาง แต่เราก็ชอบอยู่บ้านเช่นกัน
ผมมีกิจกรรมเป็นล้าน อยากทำที่นี่ สร้างบ้านให้เสร็จ พูดคุยกับเพื่อนบ้าน
ขี่จักรยาน วิ่งมาราธอน ปลูกต้นมะเขือเทศ เก็บลูกมะพร้าวกิน (หัวเราะ)

อาศัยอยู่เมืองไทยมาพอสมควร
คุณเห็นอะไรในสังคมเราบ้าง
ผมชอบทุกอย่าง แต่อย่างละนิดละหน่อย
ผมรู้สึกดีที่อาศัยอยู่ที่นี่และไม่ได้เป็นคนที่นี่โดยสมบูรณ์
นักท่องเที่ยวมักเห็นอะไรมากกว่าสิ่งที่คนท้องถิ่นเห็น

มีหลายสิ่งหลายอย่างในสังคมไทยที่ผมไม่เห็นด้วย
แต่ผมไม่ค่อยอยากพูดถึงมัน เพราะท้ายที่สุดแล้วผมก็เป็นเพียงผู้อาศัย
และไม่มีวันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยได้ ผมไม่อยากตัดสินอะไรมักง่ายเกินไป

มุมมองคุณอาจเป็นประโยชน์ต่อเรา
(นิ่งคิดนาน-ลอบถอนหายใจ) สิ่งที่ผมเห็นมี 2 มุม หนึ่ง สังคมไทยเป็นพีระมิด
มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนมากเกินไป สอง เท่าที่เคยทำงานและรู้จักคนไทยอยู่บ้าง
พวกเขาค่อนข้างปิดกั้นตัวเอง ไม่ค่อยกล้าคิดนอกกรอบหรือลองทำสิ่งใหม่ๆ
แหวกจากขนบเดิม ผมต้องย้ำอีกครั้งว่า สิ่งที่ผมเห็นอาจจะผิดก็ได้
ทุกสังคมก็มีปัญหาต่างกันออกไป แต่โดยรวมผมรักที่นี่ ไม่งั้นคงไม่มาอยู่หรอก

คิดถึงบ้านไหม
ไม่ (ตอบทันที)
ผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรือความทรงจำหลงเหลืออยู่ที่นั่น กับครอบครัวเราใช้ Skype
คุยกันได้ เอาเข้าจริง มีหลายอย่างในสังคมฝรั่งเศสที่ผมไม่ค่อยชอบ 5 ปีที่แล้วผมกลับไปฝรั่งเศส 1 เดือน
ผมรู้สึกว่าพวกเขาหัวรุนแรงมาก ก้าวร้าว เหยียดผิว เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ทุกคนบ่นและติกับทุกสิ่ง
จริงๆ ทุกสังคมก็มีข้อเสียแหละ แต่ผมไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแบบนั้น
ผมจึงเลือกมาอยู่ที่นี่ และพยายามไม่ออกความเห็นหรือตำหนิอะไรมากนัก
เก็บความเห็นไว้ในใจคนเดียว มันไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนความเชื่อของใคร
เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน

ตัดขาดได้จริงหรือ
บ้านเกิดคุณเลยนะ
ไม่ถึงกับตัดขาด ผมแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง
หลายคนพูดว่าผมไม่ค่อยเหมือนคนฝรั่งเศส ซึ่งผมรู้สึกดี
ผมไม่ชอบตัดสินหรือวิจารณ์อะไรทั้งนั้น โอเค การวิจารณ์เป็นเรื่องจำเป็นในสังคม
แต่ถ้าให้เลือก ผมยินดีที่จะไม่ทำดีกว่า ผมสนใจที่จะฟัง รับรู้
และมีความเห็นของตัวเอง แต่จะไม่บอกใครแน่ๆ ว่าตัวเองคิดยังไง
ผมไม่อยากเป็นคนที่เต็มไปด้วยความคิดเห็น ผมชอบส่งต่อความรู้สึกดีๆ
มากกว่าการโต้เถียง ผมไม่ค่อยอยากคุยเรื่องการเมือง แต่อยากคุยเรื่องศิลปะ
สถาปัตยกรรม ชีวิต หรือเรื่องที่น่าปลาบปลื้มยินดี ผมมีความสุขที่หลุดออกมาจากสังคมแบบนั้น
ได้เลือกทางเดินชีวิต ลิขิตทุกอย่างด้วยมือผมเอง

จากเด็ก
5 ขวบคนนั้น มองย้อนกลับไปอยากแก้ไขอะไรไหม
ไม่ ผมรักชีวิตผมนะ รักสิ่งที่ทำมาทั้งหมด
อาจจะเหนื่อยเพราะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
แต่พอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าใบแต่ละวันแล้วมองย้อนกลับไป
โอ้…เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ที่นี่เวลาพลบค่ำอากาศค่อนข้างเย็น
เพราะใกล้แม่น้ำ ต้นไม้เยอะ ไม่มีคอนกรีต ผมมีความสุขเมื่อได้อยู่ริมแม่น้ำ
ผมมีความสุขทุกวัน

ความสุขสร้างได้เอง?
ใช่ เป็นสิ่งจำเป็น ชีวิตคนเราสั้น
อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เราเกิดมาเพื่อมีความสุขไม่ใช่หรือ

แต่ชีวิตจริงไม่ได้สุขขนาดนั้น
อย่าคิดมากไป พยายามหาโอกาสใหม่ให้กับตัวเอง
ผมเชื่อว่าการใช้ชีวิตให้มีความสุขประกอบด้วย 3 สิ่งคือ
สนุกกับชีวิต สร้างมิตรภาพ สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับโลก โชคดีที่ทั้ง 3 ข้อนี้ผมสามารถหาเจอได้ในการถ่ายรูป

ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา
คุณใช้ชีวิตโชกโชนเหลือเกิน ถ้าต้องจากไปวันนี้จะเสียดายไหม
ผมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะไม่เสียใจภายหลัง
ผมบอกรักคนที่ผมรักอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส ถ้าวันนี้ผมต้องตายไปจริงๆ
พวกเขาก็ยังรู้ว่า ความรักของผมไม่ได้ตายจากไปไหน มันยังอยู่ที่นี่เสมอ
อย่างน้อยที่สุด ผมก็ได้พยายามใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรน่าเสียดาย
อย่ากลัวไปเลย

สรุปว่าไม่เสียดาย
เฮ้ย
ผมยังไม่ตายนะคุณ (หัวเราะ)

“การใช้ชีวิตให้มีความสุขประกอบด้วย 3 สิ่งคือ สนุกกับชีวิต สร้างมิตรภาพ สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับโลก”

www.landrydunand.com

(จากคอลัมน์ a day with a view – a day 138 กุมภาพันธ์ 2555)

คลิกอ่านบทสัมภาษณ์อื่นๆ ได้ที่นี่
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

AUTHOR