คุยกับ Sticky Monster Lab สตูดิโอผู้สร้างจักรวาลมอนสเตอร์หน้าตายที่สะท้อนเบื้องลึกในใจคน

Sticky Monster Lab คนคนหนึ่งต้องดังถึงระดับไหนถึงจะได้มีนิทรรศการเป็นของตัวเอง มีสินค้าอย่างตุ๊กตา พวงกุญแจ โคมไฟ หรือสติ๊กเกอร์ไลน์รูปใบหน้าตัวเอง และถูกเชิญชวนให้ไปคอลแล็บกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Samsung, IKEA และ Nike แถมยังได้มี installation art ขนาดใหญ่ใจกลางทะเลสาบ!

ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทั้งหมดที่ว่ามาเป็นจริงได้ในโลกของสัตว์ประหลาดสัญชาติเกาหลีอย่าง Sticky Monster Lab

Sticky Monster Lab

จากซ้ายไปขวาคือ Yellowmon, Redmon, Bigmon และ Birdmon บรรดาสมาชิกชื่อดังจากค่าย Sticky Monster Lab ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นหน้าค่าตากันมาบ้าง แต่นอกจากคาแร็กเตอร์ทั้งสี่ที่ว่ามา ก็ยังมีสัตว์ประหลาดอีกมากมายหลายตัวที่ถือกำเนิดขึ้นโดยสตูดิโอแห่งนี้ 

Sticky Monster Lab ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2007 จากการร่วมมือกันของ 3 ดีไซเนอร์ชาวเกาหลี Fla, Boo และ Inae ซึ่งล้วนแล้วแต่มีพื้นเพและความถนัดที่แตกต่างกันไป แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถต่อยอดผลงานของสตูดิโอออกไปได้ไกลขึ้นเรื่อยๆ ทั้งงานกราฟิกดีไซน์ โปรดักต์ดีไซน์ และแอนิเมชั่น สมกับที่พวกเขานิยามตัวเองว่าเป็น multidisciplinary creative studio

“เมื่อผลงานแต่ละชิ้นถูกหลอมรวมเข้ากับตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะถ่ายทอดผ่านเทคนิคหรือเครื่องมือใดก็ตาม Sticky Monster Lab พิสูจน์ให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ซึ่งขีดจำกัด”​ เราเห็นด้วยกับคำอธิบายในเว็บไซต์ของพวกเขาทุกประการ

มีโอกาสทั้งทีเราจึงไม่รอช้ารีบส่งอีเมลไปพูดคุยกับดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งทั้งสาม ถึงเบื้องหลังสนุกๆ ของการทำงานร่วมกับเหล่ามอนสเตอร์และแบรนด์ดังระดับโลกมากมายตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา 

ขอเตือนไว้ก่อนว่าให้ทำใจดีๆ ไม่อย่างนั้นอ่านจบคงได้มีเสียเงินให้กับน้องๆ มอนสเตอร์เหล่านี้แน่นอน!

Sticky Monster Lab

เพราะพระเอกคือเหล่ามอนสเตอร์

ย้อนกลับไปในปี 2007 สองครีเอทีฟไดเรกเตอร์ในปัจจุบันอย่าง Fla และ Boo ได้มีโอกาสทำงานร่วมกันในโปรเจกต์โฆษณาของ Nike ที่มีชื่อว่า The Runners ในตอนนั้น Fla ยังคงเป็นพนักงานประจำฝ่ายแอนิเมชั่นสามมิติในบริษัทโปรดักชั่นโฆษณาแห่งหนึ่ง ขณะที่ Boo เป็นฟรีแลนซ์สายภาพประกอบ 

“หลังจบโปรเจกต์ ผมตัดสินใจลาออกจากบริษัทมาเพื่อเริ่มต้นทำ Sticky Monster Lab ร่วมกับ Boo โดยมีเป้าหมายคือการลงมือสร้างสรรค์อะไรก็ตามที่อยากทำ เป็นอิสระจากลูกค้า ซึ่งคงนับได้ว่าเป็นความฝันสูงสุดของเหล่าครีเอเตอร์ทุกคน” Fla เล่าติดตลก

จากนั้นพวกเขาจึงได้พบกับสมาชิกคนสุดท้ายอย่าง Inae ในระหว่างการเตรียมงานนิทรรศการครั้งแรกในปี 2008 นั่นคือ 1st exhibition THE MONSTERS ซึ่งผสมผสานงานหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นงานแอนิเมชั่น กราฟิก หรือประติมากรรม สร้างความสนใจให้กับผู้เข้าชมจำนวนมาก

หลังจบนิทรรศการในครั้งนั้น Inae ผู้มีประสบการณ์ในฐานะบัณฑิตคณะประติมากรรม และการทำงาน toy sculptor ให้กับสินค้าประเภทฟิกเกอร์มาก่อน ก็ถูกชักชวนเข้ามาเสริมทัพในตำแหน่ง Product Designer ก่อนที่จะขยับมาเป็น Product Manager อย่างในปัจจุบัน 

“เมื่อเริ่มต้นทำ Sticky Monster Lab พวกเราตั้งใจอยากให้ผู้ชมโฟกัสไปที่เรื่องราวและคาแร็กเตอร์ของเหล่ามอนสเตอร์อย่างที่มันเป็นจริงๆ โดยปราศจากอคติที่มาจากเชื้อชาติหรือเพศของศิลปิน ขณะเดียวกันก็ไม่ถูกจำกัดด้วยกำแพงภาษาหรือวัฒนธรรม” ด้วยเหตุผลนี้เอง พวกเขาจึงตั้งใจผลิตผลงานโดยไม่เปิดเผยตัวตนของดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลัง (เช่นกันกับการให้สัมภาษณ์นี้ที่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวตนคนตอบ เพื่อให้คนอ่านสนใจเรื่องราวของบรรดามอนสเตอร์มากกว่า) และสร้างสรรค์โลกของเหล่ามอนสเตอร์ขึ้นโดยไม่ยึดติดกับภาษาและวัฒนธรรมใดเป็นพิเศษ จึงไม่แปลกเลยที่แม้แต่คนที่เคยซื้องานของพวกเขาจะไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้ว สตูดิโอเจ้าของมอนสเตอร์เหล่านี้ตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่

เพราะเราทุกคนล้วนมีมอนสเตอร์ในใจ

แม้ว่าภาพลักษณ์ของมอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกเรียบง่าย เป็นมิตร และน่ารัก แต่หากเราลองมองลึกลงไปก็จะสัมผัสได้ถึงนัยที่ดีไซเนอร์ทั้งสามอยากสื่อ นั่นคือความเป็นจริงบนโลกที่ไม่สวยงามเสมอไป

“คำว่ามอนสเตอร์ในแง่หนึ่งอาจเปรียบได้กับความรู้สึกหวาดกลัวและแปลกแยกในใจคน ซึ่งมนุษย์เราต่างก็มีตัวตนอันแปลกประหลาดกันทั้งนั้น แต่เมื่อต้องปะทะกับสายตาของผู้คนที่มองจ้องมา บางคนอาจพยายามเก็บซ่อนมันไว้ในซอกหลืบที่ลึกที่สุดของจิตใจ ในขณะที่บางคนอาจพยายามนำมันไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นที่ถูกมองว่าแปลกประหลาดมากกว่าเพื่อที่จะได้สบายใจว่าตัวเองยังคงจัดว่าเป็นคน ‘ปกติ’ พวกเราจึงชอบคำว่ามอนสเตอร์หรือสัตว์ประหลาด เพราะมันเชื่อมโยงกับความย้อนแย้งข้อนี้” 

แทนที่เราจะได้คาแร็กเตอร์ในท่วงท่าน่ารักสดใสหรือยิ้มร่าเริง หลายครั้งเราจึงได้เห็นภาพเหล่ามอนสเตอร์ในอามณ์เศร้า เหงา จ๋อย อย่างภาพชุด NOTHING เป็นต้นWe need longer and longer text for this part but without the word SML because there are too much keywords right here so that we need to extent the text length! I kept misspelling the word length all the time and I don’t know why. Creator Studio lets creators and publishers manage posts, insights and messages from all of your Facebook Pages in one place.

“เราคิดว่ามันค่อนข้างแปลกที่คาแร็กเตอร์หลายตัวยิ้มและร่าเริงตลอดเวลา ถ้าลองนึกถึงเวลาที่เราเดินสวนกับผู้คนบนถนน ทุกคนต่างก็ทำหน้านิ่งกันทั้งนั้นแม้ว่าในใจเขากำลังคิดหรือรู้สึกถึงสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเราจึงคิดว่าการทำให้คาแร็กเตอร์แต่ละตัวทำหน้านิ่งอาจทำให้ผู้ชมสามารถตีความได้หลากหลายมากขึ้น” พวกเขาอธิบาย

แม้ว่าเหล่ามอนสเตอร์จะทำทุกอย่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงเพลิดเพลินไปกับจังหวะการเคลื่อนไหวและเรื่องราวที่พวกเขาตั้งใจสื่อสาร ทั้งในรูปแบบของคลิปสั้นๆ บนอินสตาแกรม รวมถึงแอนิเมชั่นแก๊กบนยูทูบอีกด้วย

เพราะเริ่มต้นทำทุกอย่างจากศูนย์

สำหรับใครที่เคยคลุกคลีกับแวดวงอาร์ตทอยมาก่อนน่าจะพอรู้ว่า Sticky Monster Lab ถือเป็นหนึ่งในดาวเด่นของตลาดของเล่นทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค หรือแม้กระทั่งระดับโลก ยืนยันด้วยฟิกเกอร์เหล่ามอนสเตอร์ที่พวกเขาผลิตออกมามากมายหลายคอลเลกชั่นจนนับไม่หวาดไม่ไหว

“ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกเราไม่ได้คิดถึงโอกาสในแวดวงอาร์ตทอยมากนัก เพราะในขณะนั้นมีศิลปินหรือบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับอาร์ตทอยอยู่น้อยมาก เราจึงจำเป็นที่จะต้องเริ่มทดลองทำกันเองตั้งแต่ต้น” จากคอลเลกชั่นบุกเบิกอย่าง M series และ S series ปัจจุบันพวกเขาแตกไลน์ฟิกเกอร์ออกมาอีกมากมาย หนึ่งในนั้นคือคอลเลกชั่นกล่องสุ่มที่เพิ่งปล่อยมาไม่นานมานี้คือ Walking Series, Sitting Series และ Sport Series We need longer and longer text for this part but without the word SML because there are too much keywords right here so that we need to extent the text length! I kept misspelling the word length all the time and I don’t know why.

Sticky Monster Lab

“ด้วยความที่เป็นสตูดิโอขนาดเล็กมากๆ เราจึงไม่ได้มีการทำรีเสิร์ชอะไรก่อนลงมือพัฒนาสินค้า แต่อาศัยการพูดคุยและเสนอไอเดียกันแบบง่ายๆ แล้วจึงเอาไอเดียไปคุยกับโรงงานเพื่อเช็กกระบวนการผลิต ถ้ามันพอจะเป็นไปได้เราก็ลองทำดู” พวกเขาอธิบายกระบวนการผลิตสินค้าแต่ละอย่างแบบง่ายๆ แต่สิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายเลยก็คือการรักษาฐานแฟนคลับเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นตลอดเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา

“แม้ว่าที่ผ่านมาสไตล์ของพวกเราจะเปลี่ยนไปบ้างตามแต่ไดเรกชั่นของแต่ละโปรเจกต์ แต่สิ่งหนึ่งที่เราพยายามอย่างหนักก็คือการรักษาคุณภาพของสินค้าให้ได้มาตรฐานเสมอ ซึ่งก็คงไม่ต่างจากศิลปินทุกคน” 

Sticky Monster Lab
The Lamp Girl
Sticky Monster Lab
SML BABY LAMP 01-02

เพราะจักรวาลนี้ยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการสะสมฟิกเกอร์ เราเชื่อว่าคงมีหลายคนที่ถูกมอนสเตอร์หน้าตายเหล่านี้ตกจากโปรเจกต์คอลแล็บสนุกๆ ซึ่งพวกเขาได้ไปแจมกับแบรนด์ดังมากมาย

ความเนื้อหอมของบรรดามอนสเตอร์นั้นยืนยันได้จากประวัติการคอลแล็บอันโชกโชน เอาแค่ในช่วง 2 ปีแรกที่เปิดสตูดิโอขึ้นมา พวกเขาก็ได้ร่วมงานกับไนกี้ แบรนด์ดังที่ครีเอเตอร์ทั่วโลกฝันถึงแล้ว

Nike FB Graphic Tee (2009) เป็นโปรเจกต์ใหญ่ครั้งแรกที่เราได้ทำงานร่วมกับไนกี้ ซึ่งนับว่าเป็นแบรนด์ที่พวกเรารักมากตั้งแต่สมัยเด็กๆ ผมชอบที่เราสามารถนำเสนอผลงานในโปรเจกต์นี้ผ่านรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิกดีไซน์ โปรดักต์ แอนิเมชั่น หรือแม้กระทั่งนิทรรศการ”

นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานคอลแล็บสนุกๆ อีกหลายโปรเจกต์ไม่ว่าจะเป็นกล้อง INSTAX MINI 8 x STICKY MONSTER LAB (2013) ที่ออกมาให้เลือกจับจองกันถึง 4 สี, 花樣年華 : ART TOY (2019) ฟิกเกอร์รุ่นพิเศษที่ออกแบบขึ้นมาจากจักรวาลของบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง BTS หรือแม้กระทั่งการคอลแล็บกับแบรนด์รองเท้าอย่าง TEVA X SML (2020) เกิดเป็นคอลเลกชั่นที่ประกอบไปด้วยรองเท้า กระเป๋า และฟิกเกอร์รุ่นพิเศษ We need longer and longer text for this part but without the word SML because there are too much keywords right here so that we need to extent the text length! I kept misspelling the word length all the time and I don’t know why. Creator Studio lets creators and publishers manage posts, insights and messages from all of your Facebook Pages in one place.

มากไปกว่างานคอลแล็บ พวกเขายังขยันทดลองทำโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่พาให้พวกเขาได้ทะลุออกนอกกรอบเดิมๆ หนึ่งในนั้นคือ installation art ขนาดยักษ์ใจกลางทะเลสาบซอกชนในกรุงโซล 

“ในทางกายภาพ Luna Project with Sticky Monster Lab (2019) คือโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา” ตัวเอกของงานนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Earthmon ตัวโตสีฟ้าและสนูปปี้กับวู้ดสต็อกที่มาร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 50 ปีของ LUNA Project โปรเจกต์ที่นำยานอวกาศไปลงจอดบนดวงจันทร์!

“ความยากของงานนี้คือการต้องแสดงงานในสถานที่เอาต์ดอร์ แต่ในวันก่อนหน้าที่จะเปิดงานกลับมีพายุเข้า ทำให้เราต้องส่งคาแร็กเตอร์ที่เสียหายกลับไปยังโรงงานเพื่อซ่อมแซมรอยรั่วและนำกลับมาติดตั้งให้ทันภายในเวลาที่จำกัด” พวกเขาเล่าถึงความท้าทายที่เจอ แต่สิ่งที่ได้รับมานั้นก็เกินคุ้ม เพราะมีผู้คนที่สนใจและเดินทางไปถ่ายรูปเช็กอินกับ Earthmon และผองเพื่อนมากมายตลอดระยะเวลาที่จัดแสดงเลยทีเดียว

Sticky Monster Lab

We need longer and longer text for this part but without the word SML because there are too much keywords right here so that we need to extent the text length! I kept misspelling the word length all the time and I don’t know why. Creator Studio lets creators and publishers manage posts, insights and messages from all of your Facebook Pages in one place.“อีกหนึ่งงานที่นับว่าเป็นหมุดหมายสำคัญของพวกเราคือ SML EXPO เมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นนิทรรศการครบรอบ 10 ปีของสตูดิโอ แน่นอนว่ามันมีความหมายกับพวกเราทุกคนในทีมมากๆ เพราะงานนี้รวบรวมผลงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเอาไว้ 

“พวกเราใช้เวลาในการเตรียมการยาวนานกว่าหนึ่งปี และเผชิญความยากในการสื่อสารข้ามประเทศเพื่อทำงานร่วมกับทีมในไต้หวัน กว่าที่นิทรรศการจะเสร็จสมบูรณ์อย่างที่ทุกคนได้เห็น” และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้พาเหล่ามอนสเตอร์กลับไปจัดแสดงที่ไต้หวันอีกครั้งในงาน SML WONDER EXPO 2021 ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคย แถมคราวนี้ยังมีการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่บนรถบัสในไทเปอีกต่างหาก

“ในอนาคตเราตั้งใจที่จะจัดนิทรรศการให้มากขึ้น รวมถึงงาน installation art ในสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย นี่ไม่ได้หมายถึงแค่ในเกาหลีแต่ยังรวมไปถึงในต่างประเทศ เหมือนกับที่เราเคยได้ออกเดินทางบ่อยๆ ในช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 แน่นอนว่าประเทศไทยคือหนึ่งในที่ที่เราอยากกลับไป และหวังว่าจะได้จัดแสดงงานไวๆ โดยที่ไม่ต้องใส่แมสก์คุยกันด้วยนะ” พวกเขาทิ้งท้าย

AUTHOR