Fast & Feel Love: หนังแอ็กชั่นที่บอกให้เราเลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับความฝันของตัวเอง

(เนื้อหาต่อไปนี้ไม่มีสปอยล์) 

“เมื่อต้นไม้อยู่ถูกที่ถูกเวลา มันจะเติบโตอย่างรวดเร็ว”

‘Fast and Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ‘ คือภาพยนตร์ลำดับที่ 8 ของ ‘เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์’ และต่อจาก ‘ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ’ (2562) และอีกหลายเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นหูอย่างดี อย่าง ‘Die Tomorrow’ (2560) ‘ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ’ (2558) หรือ ‘Mary is Happy, Mary is Happy’ (2556) รวมถึงผลงานกำกับโฆษณาและฝีมือการเขียนบทอีกหลายเรื่องที่มีสไตล์การเล่าเรื่องเฉพาะตัวอันเป็นลายเซ็นของเต๋อ นวพล อย่างชัดเจน

การกลับมาในครั้งนี้ทำให้แฟนหนังของ เต๋อ นวพล ได้เห็นด้านใหม่ที่แตกต่างไปจากเรื่องราวเหงา เศร้า ดาร์กจากเรื่องก่อนๆ มาสู่หนังแอ็กชั่นในชีวิตประจำวัน ล้อเลียนภาพยนตร์ดัง สอดแทรกด้วยมุกตลกอยู่เป็นระยะๆ คาดว่าน่าจะกลายเป็นหนังที่หลายคนชื่นชอบได้ไม่ยาก

แม้ ‘Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ’ จะเด่นเรื่องมุกตลกจากการล้อเลียนหนังดังตั้งแต่ชื่อเรื่อง เต็มไปด้วย meme ที่กลายเป็นไวรัลก่อนหนังเริ่มฉาย แต่หนังกลับเล่าเรื่องราวจริงจังกว่าที่คิด 

เริ่มต้นด้วย ‘เกา’ (รับบทโดย นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต) เด็กหนุ่มที่มีความหลงใหลกีฬา ‘สแต็ก’ หรือการเรียงแก้วด้วยความเร็วชั่วพริบตา ซึ่งเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักและมักถูกมองว่าเป็นคนประหลาด จนได้มาเจอกับ ‘เจ’ (รับบทโดย ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์) เด็กสาวกลางๆ ที่มีความฝันอย่างคนธรรมดาทั่วไป มีความสุขกับการดูแลต้นไม้และโดยเฉพาะความฝันของเกาให้เติบโตไปสู่ที่ที่ดี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นจากการเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีตั้งแต่มัธยม ก่อนเลื่อนลำดับความสัมพันธ์ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงคู่ชีวิต ซึ่งเจยินดีคอยเป็นแบ็กอัพเพื่อให้เกามีสมาธิและสภาพแวดล้อมเหมาะสำหรับการแข่งขันสแต็กมากที่สุด 

แต่ถึงจุดหนึ่งที่ความต้องการของทั้งคู่เริ่มสวนทางกัน และต้องเผชิญหน้ากับความจริงในวัย 30 ต้นๆ ที่เหมาะสมกับการลงหลักปักฐานและสร้างครอบครัวมากที่สุด ขณะเดียวกันการแข่งขันที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีกำลังใกล้เข้ามาทุกที ทำให้เกาและเจต้องเลือกระหว่าง ‘ความฝันของตัวเอง’ หรือ ‘การเสียสละเพื่อรักษาความสัมพันธ์’ 

การเลือกระหว่างความต้องการของตัวเองและการประนีประนอมต่อคนรอบข้าง นับเป็นสถานการณ์ในชีวิตจริงที่เรามักต้องตัดสินใจยากอยู่เสมอ และยากขึ้นเมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากสิ่งที่ต้องโฟกัสไม่ได้มีเพียงแค่ความฝันส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัว ทั้งครอบครัว คนรัก หน้าที่การงาน การดูแลบ้าน หรือเอกสารต่างๆ ที่เพิ่งมา (ถูกบังคับให้) รู้จักก็ตอนโตแล้ว ซึ่งหนังเลือกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยอารมณ์ตลก ภายใต้เรื่องราวดราม่าในชีวิตประจำวันที่คนวัย 30 ต้องรับมือ และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเกาต้องปั่นป่วน และเป็นอุปสรรคต่อการกีฬาสแต็กอย่างยิ่งเมื่อขาดเจไป เหมือนกับต้นไม้ที่ต้องการแสงแต่อยู่ในที่มืด ซึ่งทำให้เขาต้องรีบหาทางแก้ไขให้ชีวิตกลับมาเป็นปกติที่สุดก่อนที่การแข่งขันสแต็กจะจบลง

นอกจากเกาและเจแล้ว ยังมีตัวละครอีกหลากหลายวัยที่คอยเป็นทีมช่วยเหลือที่ดี ให้ทั้งคู่สามารถก้าวข้ามปัญหาที่เข้ามารุมเร้าได้ ไม่ว่าจะเป็น เมทัล (รับบทโดย อนุสรา กอสัมพันธ์) แม่บ้านผู้ที่สามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้ว, ไผ่หลิว (รับบทโดย คีตภัทร ป้องเรือ) เด็กธรรมดาที่มีความลับอันน่าทึ่ง, ปอ (รับบทโดย วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ) ผู้จัดการโรงเรียนสอนสแต็กที่คอยผลักดันเกาให้ไปถึงชัยชนะอย่างเข้มงวด และแม่เกา (รับบทโดย กนกวรรณ บุตรชาติ) ที่คอยช่วยเหลือให้เกาเร็วขึ้นอีกแม้เพียง 1 วินาที ด้วยวิธีของตัวเอง 

ไม่ว่าทั้งคู่จะเลือกชีวิตแบบไหน สิ่งหนึ่งที่หนังได้ฝากกับเราไว้คงเป็นการเชียร์ให้เรากล้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบที่ต้องการ ด้วยการเลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับความฝันของตัวเอง และอย่าลืมขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนเราจนถึงทุกวันนี้

‘Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

กำกับและเขียนบท: นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

บริษัทผู้สร้าง: เวรี่ แซด พิคเจอร์ส, แฮปปี้ เอนดิ้ง ฟิล์ม

ผู้จัดจำหน่าย: จีดีเอช ห้าห้าเก้า

วันฉาย: 6 เมษายน พ.ศ. 2565

ความยาว: 130 นาที

AUTHOR