วันที่ฉันบอกพ่อว่าไม่ได้เป็นผู้ชาย

คนเราย่อมมีสิ่งที่ตัวเองหวาดกลัวกันทั้งนั้น

อาจเป็นสิ่งของ สิ่งมีชีวิต ประสบการณ์ หรือช่วงเวลายากลำบากบางช่วง

ซึ่งไม่มีทางไหนเลยที่จะทำให้ความกลัวนั้นหายไป นอกจากการเอาชนะมัน

ตุ๊ดอย่างเรา

หรือในที่นี้นั้นหมายถึงฉัน คุณคิดว่าฉันจะกลัวอะไร กลัวถูกล้อเลียน…ก็โดนจนชิน

กลัวผู้ชาย…ถ้าเป็นบุคคลคงไม่ (ออกจะชอบด้วยซ้ำ) แต่ถ้าพูดถึงความเป็นชาย…ก็ไม่แน่

ฉันเติบโตมากับพ่อเพียงคนเดียว

พร้อมคำพูดที่ท่านกรอกหูอยู่ตลอดเกี่ยวกับการเป็นทหารรับใช้ชาติ อาจเพราะท่านเห็นความเหยาะแหยะในตัวฉันตั้งแต่เด็ก

พ่อจึงชอบเล่าเรื่องความเข้มแข็งให้ฟังเผื่อจะปลูกจิตสำนึกบางอย่างลงไปได้ เรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ที่เพศชายทุกคนในประเทศนี้ต้องรับผิดชอบ

“โดนจับไปเป็นทหารแน่”

ประโยคนั้นยังติดหูฉันจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาพ่อตอนนั้นคงเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชายที่ทำตัวอ้อนแอ้นไม่สมกับชายชาตรี

ต่างจากฉันที่รู้ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ประสีประสาดีว่าไม่อยากแสดงออกเป็นชายชาตรีอย่างใครเขา

การเป็นทหารอาจไม่ใช่สิ่งที่ฉันกลัว จริงๆ สิ่งที่ฉันกลัวอาจจะเป็นการไม่ได้แสดงออกอย่างที่เราเป็นเรา

ความอัดอั้นตันใจถูกเก็บไว้หลายปี

จนกระทั่งกลางฤดูหนาวของปีที่สิบเจ็ด ในวันที่ช่วงวัยของการคัดเลือกเกณฑ์ทหารใกล้เข้ามาทุกที

ในวันที่ฉันตัดสินใจบอกพ่อถึงความต้องการจริงๆ ของตัวเอง แม้จะรู้ว่าท่านพอจะเดาออกมาตลอดหลายปีว่าฉันเป็นอะไร

ชีวิตของตุ๊ดทุกคนคงเคยผ่านโมเมนต์แบบนี้ การสารภาพกับคนใกล้ตัวเราที่สุดมันไม่เคยง่าย

ฉันว่าบางทีอาจจะยากกว่าการเปิดเผยตัวตนของเราต่อชาวโลกด้วยซ้ำ แต่มันเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้

ยังไงฉันก็ต้องทำ

คืนนั้นเราคุยกันบางเรื่องที่ฉันจำไม่ได้แล้ว พ่อล้อฉันเรื่องทหารอีกครั้ง แต่แทนที่ฉันจะแสดงท่าทีอิดออดและส่งสัญญาณให้พ่อเลิกพูดเรื่องนี้ คราวนี้ฉันกลับเงียบและเดินออกจากตรงนั้นไปร้องไห้คนเดียวอยู่หลังบ้าน

จำได้เลยว่าตัวเองโคตรจะฟูมฟาย ไปนั่งหลบมุมในที่มืดเหมือนนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงเศร้า พ่อเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉันตั้งสติและรวบรวมความกล้าของตัวเองสักพักแล้วชวนพ่อเข้าไปในบ้าน จะพูดบางอย่างแต่มันสะอึกสะอื้นจนออกมาไม่เป็นคำ ความหวาดกลัวและความเสียใจมันครอบงำหัวใจไปหมด

ฉันมองเห็นกระดาษกับสีไม้แท่งเล็กๆ ใกล้ตัว เลยคว้ามันมาเขียนลงไปว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้ชาย’ แล้วส่งให้พ่อ พ่อตะลึงไปครู่หนึ่ง

แล้วค่อยๆ พูดเชิงกล่อมเกลาว่า “เราเกิดมาเป็นผู้ชาย ร่างกายของเราก็เป็นผู้ชาย มันมีแต่ใจของเรานั่นแหละที่ไม่ใช่”

นาทีนั้นที่ฉันรู้ว่าท่านกำลังโน้มน้าวเพื่อจะให้ฉันพิจารณาตัวเองอีกครั้ง

ความเศร้าจากการไม่ถูกยอมรับมันก็ระเบิดตูมขึ้นมาอยู่ตรงนั้น ฉันหนีออกมาหามุมร้องไห้ของตัวเองอีกครั้งและไม่กลับเข้าไปในบ้านจนกว่าจะมั่นใจว่าพ่อจะเข้านอนแล้ว

ฉันกับพ่อไม่คุยเรื่องนี้กันอีกเลยหลังจากนั้น

ทั้งเรื่องทหารและการเลือกเพศ ท่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่านั่นคือการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลา

จริงๆ พอมองย้อนกลับไปแล้วฉันเข้าใจพ่อดี นี่ไม่ใช่หนัง GTH

การจะทำใจยอมรับลูกชายตัวเองว่าไม่ใช่ผู้ชายไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวยิ่งแล้วใหญ่

ถึงยังไง ฉันก็ดีใจที่ตัวเองได้บอกออกไป ในแง่ดีมันคือการทำลายกำแพงระหว่างเรา และเปิดให้คนใกล้ตัวได้รู้จักเรามากขึ้นอีกนิด…เราที่เป็น ‘เรา’ จริงๆ

หลายปีต่อมา ฉันก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ได้ลองแต่งหญิงตามงานอีเวนต์และแสดงออกอย่างตุ๊ดหัวโปกในชีวิตประจำวันอย่างที่อยากทำ

ใจจะวายเหมือนกันตอนพ่อเจอยกทรง ชั้นใน และชุดผู้หญิง ในตะกร้าผ้า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังซักแล้วตากให้อีกต่างหาก

หลังจากนั้น ฉันรอดการเกณฑ์ทหารมาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และพูดจาคะขาใส่พ่อได้เต็มที่โดยไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป

ทุกวันนี้เรามีความสุขดี

พัฒนา ค้าขาย

1 พัฒนา ค้าขาย

คนเราย่อมมีสิ่งที่ตัวเองหวาดกลัวกันทั้งนั้น
อาจเป็นสิ่งของ สิ่งมีชีวิต ประสบการณ์ หรือช่วงเวลายากลำบากบางช่วง
ซึ่งไม่มีทางไหนเลยที่จะทำให้ความกลัวนั้นหายไป นอกจากการเอาชนะมันตุ๊ดอย่างเรา
หรือในที่นี้นั้นหมายถึงฉัน คุณคิดว่าฉันจะกลัวอะไร กลัวถูกล้อเลียน…ก็โดนจนชิน
กลัวผู้ชาย…ถ้าเป็นบุคคลคงไม่ (ออกจะชอบด้วยซ้ำ) แต่ถ้าพูดถึงความเป็นชาย…ก็ไม่แน่ฉันเติบโตมากับพ่อเพียงคนเดียว
พร้อมคำพูดที่ท่านกรอกหูอยู่ตลอดเกี่ยวกับการเป็นทหารรับใช้ชาติ อาจเพราะท่านเห็นความเหยาะแหยะในตัวฉันตั้งแต่เด็ก
พ่อจึงชอบเล่าเรื่องความเข้มแข็งให้ฟังเผื่อจะปลูกจิตสำนึกบางอย่างลงไปได้ เรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ที่เพศชายทุกคนในประเทศนี้ต้องรับผิดชอบ

“โดนจับไปเป็นทหารแน่”
ประโยคนั้นยังติดหูฉันจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาพ่อตอนนั้นคงเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชายที่ทำตัวอ้อนแอ้นไม่สมกับชายชาตรี
ต่างจากฉันที่รู้ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ประสีประสาดีว่าไม่อยากแสดงออกเป็นชายชาตรีอย่างใครเขา

การเป็นทหารอาจไม่ใช่สิ่งที่ฉันกลัว จริงๆ สิ่งที่ฉันกลัวอาจจะเป็นการไม่ได้แสดงออกอย่างที่เราเป็นเรา

ความอัดอั้นตันใจถูกเก็บไว้หลายปี
จนกระทั่งกลางฤดูหนาวของปีที่สิบเจ็ด ในวันที่ช่วงวัยของการคัดเลือกเกณฑ์ทหารใกล้เข้ามาทุกที
ในวันที่ฉันตัดสินใจบอกพ่อถึงความต้องการจริงๆ ของตัวเอง แม้จะรู้ว่าท่านพอจะเดาออกมาตลอดหลายปีว่าฉันเป็นอะไร

ชีวิตของตุ๊ดทุกคนคงเคยผ่านโมเมนต์แบบนี้ การสารภาพกับคนใกล้ตัวเราที่สุดมันไม่เคยง่าย
ฉันว่าบางทีอาจจะยากกว่าการเปิดเผยตัวตนของเราต่อชาวโลกด้วยซ้ำ แต่มันเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้
ยังไงฉันก็ต้องทำ

คืนนั้นเราคุยกันบางเรื่องที่ฉันจำไม่ได้แล้ว พ่อล้อฉันเรื่องทหารอีกครั้ง
แต่แทนที่ฉันจะแสดงท่าทีอิดออดและส่งสัญญาณให้พ่อเลิกพูดเรื่องนี้
คราวนี้ฉันกลับเงียบและเดินออกจากตรงนั้นไปร้องไห้คนเดียวอยู่หลังบ้าน

จำได้เลยว่าตัวเองโคตรจะฟูมฟาย
ไปนั่งหลบมุมในที่มืดเหมือนนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงเศร้า พ่อเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันตั้งสติและรวบรวมความกล้าของตัวเองสักพักแล้วชวนพ่อเข้าไปในบ้าน จะพูดบางอย่างแต่มันสะอึกสะอื้นจนออกมาไม่เป็นคำ
ความหวาดกลัวและความเสียใจมันครอบงำหัวใจไปหมด

ฉันมองเห็นกระดาษกับสีไม้แท่งเล็กๆ
ใกล้ตัว เลยคว้ามันมาเขียนลงไปว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้ชาย’ แล้วส่งให้พ่อ พ่อตะลึงไปครู่หนึ่ง
แล้วค่อยๆ พูดเชิงกล่อมเกลาว่า “เราเกิดมาเป็นผู้ชาย ร่างกายของเราก็เป็นผู้ชาย
มันมีแต่ใจของเรานั่นแหละที่ไม่ใช่”

นาทีนั้นที่ฉันรู้ว่าท่านกำลังโน้มน้าวเพื่อจะให้ฉันพิจารณาตัวเองอีกครั้ง
ความเศร้าจากการไม่ถูกยอมรับมันก็ระเบิดตูมขึ้นมาอยู่ตรงนั้น ฉันหนีออกมาหามุมร้องไห้ของตัวเองอีกครั้งและไม่กลับเข้าไปในบ้านจนกว่าจะมั่นใจว่าพ่อจะเข้านอนแล้ว

ฉันกับพ่อไม่คุยเรื่องนี้กันอีกเลยหลังจากนั้น
ทั้งเรื่องทหารและการเลือกเพศ ท่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่านั่นคือการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลา
จริงๆ พอมองย้อนกลับไปแล้วฉันเข้าใจพ่อดี นี่ไม่ใช่หนัง GTH
การจะทำใจยอมรับลูกชายตัวเองว่าไม่ใช่ผู้ชายไม่ใช่เรื่องง่าย
ยิ่งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวยิ่งแล้วใหญ่

ถึงยังไง ฉันก็ดีใจที่ตัวเองได้บอกออกไป ในแง่ดีมันคือการทำลายกำแพงระหว่างเรา
และเปิดให้คนใกล้ตัวได้รู้จักเรามากขึ้นอีกนิด…เราที่เป็น ‘เรา’ จริงๆ

หลายปีต่อมา
ฉันก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ได้ลองแต่งหญิงตามงานอีเวนต์และแสดงออกอย่างตุ๊ดหัวโปกในชีวิตประจำวันอย่างที่อยากทำ
ใจจะวายเหมือนกันตอนพ่อเจอยกทรง ชั้นใน และชุดผู้หญิง ในตะกร้าผ้า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร
แถมยังซักแล้วตากให้อีกต่างหาก

หลังจากนั้น
ฉันรอดการเกณฑ์ทหารมาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และพูดจาคะขาใส่พ่อได้เต็มที่โดยไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป

ทุกวันนี้เรามีความสุขดี

คนเราย่อมมีสิ่งที่ตัวเองหวาดกลัวกันทั้งนั้น
อาจเป็นสิ่งของ สิ่งมีชีวิต ประสบการณ์ หรือช่วงเวลายากลำบากบางช่วง
ซึ่งไม่มีทางไหนเลยที่จะทำให้ความกลัวนั้นหายไป นอกจากการเอาชนะมันตุ๊ดอย่างเรา
หรือในที่นี้นั้นหมายถึงฉัน คุณคิดว่าฉันจะกลัวอะไร กลัวถูกล้อเลียน…ก็โดนจนชิน
กลัวผู้ชาย…ถ้าเป็นบุคคลคงไม่ (ออกจะชอบด้วยซ้ำ) แต่ถ้าพูดถึงความเป็นชาย…ก็ไม่แน่ฉันเติบโตมากับพ่อเพียงคนเดียว
พร้อมคำพูดที่ท่านกรอกหูอยู่ตลอดเกี่ยวกับการเป็นทหารรับใช้ชาติ อาจเพราะท่านเห็นความเหยาะแหยะในตัวฉันตั้งแต่เด็ก
พ่อจึงชอบเล่าเรื่องความเข้มแข็งให้ฟังเผื่อจะปลูกจิตสำนึกบางอย่างลงไปได้ เรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ที่เพศชายทุกคนในประเทศนี้ต้องรับผิดชอบ

“โดนจับไปเป็นทหารแน่”
ประโยคนั้นยังติดหูฉันจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาพ่อตอนนั้นคงเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชายที่ทำตัวอ้อนแอ้นไม่สมกับชายชาตรี
ต่างจากฉันที่รู้ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ประสีประสาดีว่าไม่อยากแสดงออกเป็นชายชาตรีอย่างใครเขา

การเป็นทหารอาจไม่ใช่สิ่งที่ฉันกลัว จริงๆ สิ่งที่ฉันกลัวอาจจะเป็นการไม่ได้แสดงออกอย่างที่เราเป็นเรา

ความอัดอั้นตันใจถูกเก็บไว้หลายปี
จนกระทั่งกลางฤดูหนาวของปีที่สิบเจ็ด ในวันที่ช่วงวัยของการคัดเลือกเกณฑ์ทหารใกล้เข้ามาทุกที
ในวันที่ฉันตัดสินใจบอกพ่อถึงความต้องการจริงๆ ของตัวเอง แม้จะรู้ว่าท่านพอจะเดาออกมาตลอดหลายปีว่าฉันเป็นอะไร

ชีวิตของตุ๊ดทุกคนคงเคยผ่านโมเมนต์แบบนี้ การสารภาพกับคนใกล้ตัวเราที่สุดมันไม่เคยง่าย
ฉันว่าบางทีอาจจะยากกว่าการเปิดเผยตัวตนของเราต่อชาวโลกด้วยซ้ำ แต่มันเป็นสิ่งที่เราเลือกไม่ได้
ยังไงฉันก็ต้องทำ

คืนนั้นเราคุยกันบางเรื่องที่ฉันจำไม่ได้แล้ว พ่อล้อฉันเรื่องทหารอีกครั้ง
แต่แทนที่ฉันจะแสดงท่าทีอิดออดและส่งสัญญาณให้พ่อเลิกพูดเรื่องนี้
คราวนี้ฉันกลับเงียบและเดินออกจากตรงนั้นไปร้องไห้คนเดียวอยู่หลังบ้าน

จำได้เลยว่าตัวเองโคตรจะฟูมฟาย
ไปนั่งหลบมุมในที่มืดเหมือนนางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงเศร้า พ่อเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันตั้งสติและรวบรวมความกล้าของตัวเองสักพักแล้วชวนพ่อเข้าไปในบ้าน จะพูดบางอย่างแต่มันสะอึกสะอื้นจนออกมาไม่เป็นคำ
ความหวาดกลัวและความเสียใจมันครอบงำหัวใจไปหมด

ฉันมองเห็นกระดาษกับสีไม้แท่งเล็กๆ
ใกล้ตัว เลยคว้ามันมาเขียนลงไปว่า ‘ผมไม่ใช่ผู้ชาย’ แล้วส่งให้พ่อ พ่อตะลึงไปครู่หนึ่ง
แล้วค่อยๆ พูดเชิงกล่อมเกลาว่า “เราเกิดมาเป็นผู้ชาย ร่างกายของเราก็เป็นผู้ชาย
มันมีแต่ใจของเรานั่นแหละที่ไม่ใช่”

นาทีนั้นที่ฉันรู้ว่าท่านกำลังโน้มน้าวเพื่อจะให้ฉันพิจารณาตัวเองอีกครั้ง
ความเศร้าจากการไม่ถูกยอมรับมันก็ระเบิดตูมขึ้นมาอยู่ตรงนั้น ฉันหนีออกมาหามุมร้องไห้ของตัวเองอีกครั้งและไม่กลับเข้าไปในบ้านจนกว่าจะมั่นใจว่าพ่อจะเข้านอนแล้ว

ฉันกับพ่อไม่คุยเรื่องนี้กันอีกเลยหลังจากนั้น
ทั้งเรื่องทหารและการเลือกเพศ ท่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่านั่นคือการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลา
จริงๆ พอมองย้อนกลับไปแล้วฉันเข้าใจพ่อดี นี่ไม่ใช่หนัง GTH
การจะทำใจยอมรับลูกชายตัวเองว่าไม่ใช่ผู้ชายไม่ใช่เรื่องง่าย
ยิ่งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวยิ่งแล้วใหญ่

ถึงยังไง ฉันก็ดีใจที่ตัวเองได้บอกออกไป ในแง่ดีมันคือการทำลายกำแพงระหว่างเรา
และเปิดให้คนใกล้ตัวได้รู้จักเรามากขึ้นอีกนิด…เราที่เป็น ‘เรา’ จริงๆ

หลายปีต่อมา
ฉันก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ได้ลองแต่งหญิงตามงานอีเวนต์และแสดงออกอย่างตุ๊ดหัวโปกในชีวิตประจำวันอย่างที่อยากทำ
ใจจะวายเหมือนกันตอนพ่อเจอยกทรง ชั้นใน และชุดผู้หญิง ในตะกร้าผ้า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร
แถมยังซักแล้วตากให้อีกต่างหาก

หลังจากนั้น
ฉันรอดการเกณฑ์ทหารมาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และพูดจาคะขาใส่พ่อได้เต็มที่โดยไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป

ทุกวันนี้เรามีความสุขดี

ฉันกับพ่อไม่คุยเรื่องนี้กันอีกเลยหลังจากนั้น
ทั้งเรื่องทหารและการเลือกเพศ ท่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ว่านั่นคือการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลา
จริงๆ พอมองย้อนกลับไปแล้วฉันเข้าใจพ่อดี นี่ไม่ใช่หนัง GTH
การจะทำใจยอมรับลูกชายตัวเองว่าไม่ใช่ผู้ชายไม่ใช่เรื่องง่าย
ยิ่งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวยิ่งแล้วใหญ่

ถึงยังไง ฉันก็ดีใจที่ตัวเองได้บอกออกไป ในแง่ดีมันคือการทำลายกำแพงระหว่างเรา
และเปิดให้คนใกล้ตัวได้รู้จักเรามากขึ้นอีกนิด…เราที่เป็น ‘เรา’ จริงๆ

หลายปีต่อมา
ฉันก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ได้ลองแต่งหญิงตามงานอีเวนต์และแสดงออกอย่างตุ๊ดหัวโปกในชีวิตประจำวันอย่างที่อยากทำ
ใจจะวายเหมือนกันตอนพ่อเจอยกทรง ชั้นใน และชุดผู้หญิง ในตะกร้าผ้า แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร
แถมยังซักแล้วตากให้อีกต่างหาก

หลังจากนั้น
ฉันรอดการเกณฑ์ทหารมาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และพูดจาคะขาใส่พ่อได้เต็มที่โดยไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป

ทุกวันนี้เรามีความสุขดี พัฒนา ค้าขาย

AUTHOR