Belter5: Belter Love Song รวมเพลงที่ดีที่สุดของค่ายไร้เข็มขัด

ผมคิดวิธีการเขียนถึงแผ่นเสียงอัลบั้มนี้ไว้สองแบบครับ

แบบแรก ผมขอเกริ่นถึงค่ายเพลงเล็กๆ ชื่อ No More Belts ของ หนึ่ง-เกรียงไกร วงษ์วานิช (หรือ หนึ่ง Friday หรือศิลปินเดี่ยวที่ใช้ชื่อว่า Sleeper 1) ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคแฟต เรดิโอ โน่นเลย เป็นค่ายเพลงที่มีผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ นอกจาก Sleeper 1 แล้วก็มีศิลปินที่เติบโตมาในค่ายอย่างเช่น Portrait, Soundlanding, Morningsurfers, Moon, นรเทพ มาแสง และยังมีเพื่อนๆ พี่น้องศิลปินอีกจำนวนมาก (ใช้คำว่ามหาศาลก็ได้) ที่เคยแวะเวียนมาออกอัลบั้ม อีพี หรือทำเพลงแค่เพลงเดียวร่วมกับค่ายนี้

…ซึ่งจริงๆ ผมเคยเขียนถึงงานเพลงที่ No More Belts มีส่วนเกี่ยวข้องไปบ้างแล้วในคอลัมน์นี้ หากใครสนใจก็ลองย้อนกลับไปอ่านในตอนที่เขียนถึงอัลบั้มของ Friday และ Morningsurfers กันได้นะครับ

No More Belts ออกอัลบั้มมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ก็ถือว่ามีงานเยอะเลยทีเดียว ในปีแรกๆ พวกเขาออกปีละหลายชุด ส่วนในปีหลังๆ นี่ก็ยังออกงานมาเฉลี่ยปีละอัลบั้ม ที่น่าสนใจคือ ค่ายเพลงนี้ยังคงยึดมั่นกับการออกงานเพลงเป็นแผ่นซีดี และในไม่กี่ปีมานี่พวกเขาเริ่มเอาเพลงชุดเด่นๆ ของตัวเองกลับมาทำเป็นแผ่นเสียงเสียด้วย ยกตัวอย่างก็เช่นอัลบั้มของ Portrait, Soundlanding และ Morningsurfers

แต่สำหรับแผ่นเสียงอัลบั้ม Belter5 : Belter Love Song (พ.ศ. 2561) นี่เป็นอัลบั้มที่พิเศษมากๆ อยู่สักหน่อย อัลบั้มนี้เป็นการรวมเพลงเด่นๆ ของค่าย No More Belts มาอยู่ในชุดเดียวกัน เป็นเหมือนกับการแนะนำงานชิ้นโบแดงของค่ายเพลงแห่งนี้ หลายๆ เพลงเคยขึ้นอันดับสูงลิ่วหรือกระทั่งอันดับ 1 ในคลื่นแฟต เรดิโอ แต่ในขณะเดียวกัน หลายเพลงก็เป็นเหมือนแรร์ไอเท็มที่นักฟังเพลงอาจไม่เคยฟัง แต่ถ้าฟังก็จะได้ค้นพบกับเพลงดีๆ ที่มาจากฝีมือของคนทำเพลงกลุ่มนี้ และยังไม่หมด ยังมีอีกหนึ่งแทร็กที่เป็นเพลงแบบ previously unreleased หรือไม่เคยปล่อยให้ฟังที่ไหนมาก่อนอีกด้วย

สรุปก็คือเป็นการรวมเพลงไฮไลต์ในพอร์ตฟอลิโอของค่าย ที่มีทั้งเพลงฮิต เพลงดีแต่ไม่ฮิต และเพลงที่หาฟังที่ไหนไม่ได้!

คำว่า ‘Belter’ เป็นชื่ออัลบั้มรวมเพลงของค่ายเพลงค่ายนี้ครับ และมักจะมีเลขเวอร์ชั่นต่อท้ายเสมอ ดังนั้นอัลบั้มชุดนี้จึงเป็นการรวมเพลงในลำดับที่ 5 ของค่ายก็ว่าได้ เพลงทั้ง 11 แทร็กในแผ่นเสียงชุดนี้ถูกเลือกและไล่เรียงโดย หนึ่ง-เกรียงไกร วงษ์วานิช ซึ่งก็คือคนที่อยู่กับค่าย No More Belts อยู่ทุกขณะจิต และมองเห็นการก่อกำเนิดของทุกบทเพลงมาแล้ว หนึ่งเลือกเปิดแทร็กแรกหน้าเอด้วย ‘ความทรงจำ’ ของศิลปินชื่อแปลก Grupre Lover เพลงอะคูสติกเพราะๆ กับเรื่องราวของการแอบรัก เป็นการเริ่มต้นแบบสบายๆ เศร้าๆ เหงาๆ พองาม เพลงนี้เคยเป็นเพลงเปิดอัลบั้ม Belter 1.0 (พ.ศ. 2547) ที่เป็นงานรวมเพลงชุดแรกของค่ายด้วย

ต่อด้วยแทร็กที่สอง ‘กลางวันตื่น กลางคืนฝัน’ ของวงสาธร เป็นเพลงที่วงสาธรเคยแต่งให้กับนิตยสาร a day และถูกเอามาทำใหม่โดยฝีมือของชาว No More Belts โดยได้ บอย-ตรัย ภูมิรัตน มาเป็นคนร้อง และยังได้สมาชิกวง Friday มาช่วยเล่นดนตรี รวมทั้งได้ Portrait มาร้องประสานให้ด้วย เพลงนี้เคยเป็นแทร็กสุดท้ายซึ่งเป็น Hidden Track ของอัลบั้ม Belter 2.0 Man Standing (พ.ศ. 2548) ซึ่งเป็นงานรวมเพลงชุดที่สองของค่าย

แทร็กที่สามหน้าเอ คือเพลงพิเศษที่ไม่เคยปล่อยให้ฟังที่ไหนมาก่อน ‘หนาวนี้’ เพลงเก่าของ Friday ที่คัฟเวอร์โดย Siam Belts Club วงเฉพาะกิจที่เล่นเพลงอะคูสติกได้เป็นธรรมชาติมากๆ แล้วก็ต่อด้วยเพลงดังของค่ายอีกเพลงคือ ‘I Wanna Be With You’ ของ Road Movie ซึ่งเป็นเพลงภาษาอังกฤษซึ่งดนตรีมีกลิ่นไทยๆ และหลอมรวมกันได้ลงตัวมากๆ ถ้าจำไม่ผิดเพลงนี้เคยขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงของแฟต เรดิโอ มาแล้ว ตามด้วย ‘ขอดาว’ เพลงที่แจ้งเกิดให้กับ Portrait หรือ ปอย-ตวัน ชวลิตธำรง ศิลปินที่ยังคงทำเพลงใหม่ๆ มาจนถึงวันนี้ (เชื่อว่าเพลงนี้ใครๆ ก็รู้จัก) และปิดท้ายหน้าเอด้วย ‘ฟัง’ ของ Sleeper 1 ที่ร้องโดยปอยอีกเพลง แต่เป็นผลงานในนามของหนึ่ง Sleeper 1 ที่ถือว่าแจ้งเกิดให้กับศิลปินชื่อ Sleeper 1 เช่นกัน

กลับแผ่นเสียง พลิกไปหน้าบีบ้าง หน้าที่สองของอัลบั้มเริ่มด้วย ‘เช้า’ เพลงเด่นสุดครบเครื่องของ Morningsurfers และต่อด้วย ‘I Miss U2′ ของศิลปินสาวในตำนานอย่าง 60C ผู้เคยมีเพลง ‘I Miss You’ เป็นเพลงดังในหมู่เด็กแนวมาก่อน และเธอก็มาทำเพลงชื่อ ‘I Miss U2’ ที่เป็นเหมือนภาคต่อของ ‘I Miss You’ กับค่าย No More Belts ซึ่งทั้งสองเพลงเป็นเพลงอิเล็กทรอนิกป๊อปที่เพราะเอามากๆ ฟังแล้วละลายได้เลยทีเดียว ซาวนด์ดนตรีเท่ขนาดที่ฟังตอนนี้ยังไม่เชยเลย มีกลิ่นอาร์แอนด์บีพองาม เสียงของนักร้องสาวมีเสน่ห์ร้ายกาจ

ต่อด้วย ‘เพราะฉันพบเธอ’ ที่เป็นเพลงของ Jerry แต่ได้ วิน ศิริวงศ์ แห่ง Sqweeze Animal มาขับร้อง เป็นเพลงที่เท่จับใจอีกเพลง สมกับที่ Jerry คือผู้อยู่เบื้องหลังวงรวมดาวอย่าง 2 Days Ago Kids เลยทีเดียว

สองแทร็กสุดท้ายคือ ‘จะมีไหม’ ของวง Moon เพลงป๊อปร็อกเพราะๆ ที่นักร้องนำโชว์พลังเสียงได้ชัดเจนและเต็มอิ่มมาก กับเพลง ‘คำตอบ’ ของ Soundlanding วงสไตล์บริตร็อกในตำนานอีกวงที่นานๆ จะกลับมาเล่นดนตรีร่วมกัน นี่คือเพลงเด่นเพลงหนึ่งของพวกเขา

บทเพลงทั้ง 11 ในอัลบั้มคือเพลงแบบ ‘หัวกะทิ’ จากค่ายนี้ มีทั้งอะคูสติกป๊อป บริตป๊อป บริตร็อก ป๊อปร็อก อิเล็กทรอนิกป๊อป ฯลฯ เรียกว่าโชว์ความหลากหลายทางดนตรีแต่ฟังติดหูทุกเพลง ดีกรีความคุ้มค่าน่าสะสมถือว่าสูงลิ่ว ทั้งสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ No More Belts และแฟนๆ ประจำของค่ายนี้ก็ตาม

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ อย่างที่เขาตั้งชื่อไว้ว่าเป็น Belter Love Song คือมันยังเป็นงานรวมเพลงรักที่มีอารมณ์หลากหลาย ทั้งออดอ้อน อบอุ่น คิดถึง เศร้าใจมาก เสียใจนิดหน่อย ไปจนถึงแค่อารมณ์เหงาๆ เบาๆ ถือเป็นการเดินทางผ่านห้วงอารมณ์ของหัวใจในหลายสถานภาพ

เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่ครบถ้วนทั้งความรู้สึกและคุณค่า

ส่วนการเขียนถึงอัลบั้มนี้ในอีกแบบ ผมอยากเล่าเรื่องส่วนตัวครับ

ผมเคยทำวงดนตรีเล็กๆ ร่วมกับพี่ๆ เพื่อนๆ ชื่อวงสาธร วงดนตรีวงนี้มีอัลบั้มที่ไม่ดังอะไรอยู่แค่ชุดเดียว เป็นการออกอัลบั้มแบบเทปคาสเสตต์ด้วยซ้ำ แต่ก็ถูกนิตยสาร a day ชวนให้ไปทำเพลงในอัลบั้มพิเศษที่แถมพร้อมนิตยสารด้วย ผมแต่งเพลงชื่อ ‘กลางวันตื่น กลางคืนฝัน’ ให้กับโปรเจกต์นั้น มีคนชื่นชอบเพลงนี้อยู่พอสมควร หลายคนมาบอกกับผมต่อหน้าว่าชอบเพลงนี้มาก และเคยมีนักเขียนท่านหนึ่งเอาเนื้อเพลงนี้ไปลงในคอลัมน์ของเขาด้วย

หลังจากนั้นผมก็ได้รู้จักกับหนึ่งด้วยความที่เป็นเพื่อนของเพื่อน และเป็นคนที่หมกมุ่นเรื่องดนตรีเหมือนๆ กัน รู้จักคุ้นเคยกันพักใหญ่ พอหนึ่งรู้ว่าผมแต่งเพลงได้ ก็เอ่ยปากชวนให้ผมมาทำเพลงรวมไว้ในอัลบั้ม Belter 2.0 ด้วย ซึ่งผมก็รับปากด้วยความดีใจ ตอนนี้ผมก็ชวนพี่ๆ เพื่อนๆ วงสาธรกลับมาทำเพลงด้วยกันอีก โดยมีหนึ่งและปอยช่วยเหลือเรื่องดนตรี ผมเอา ‘กลางวันตื่น กลางคืนฝัน’ มาทำใหม่ แล้วก็ชวน บอย ตรัย มาขับร้องตอนนี้เอง

ดูเหมือนว่าหนึ่งจะชอบเพลงนี้อยู่เหมือนกัน เพราะมันกลายเป็นเพลงที่ค่าย No More Belts ตัดสินใจลงทุนทำมิวสิกวิดีโอด้วย เพลงนี้ได้ จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข มาเล่นให้ (เป็นการแสดงที่น่าทึ่งมาก ลองไปหาดูในยูทูบกันนะครับ) ตอนนั้นเป็นจังหวะชีวิตช่วงที่ผมเริ่มหันมาทำหนังสืออย่างจริงจังแล้ว มีโอกาสในการทำงานดนตรีน้อยลงเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังคิดว่าเพลง ‘กลางวันตื่น กลางคืนฝัน’ เป็นงานแต่งเพลงชิ้นโบแดงของตัวเองครับ จนตอนหลังผมยังเอาชื่อเพลงนี้มาตั้งเป็นชื่อพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเองด้วย แถมยังใช้เพลงนี้เป็นเพลงวอล์กอินในงานแต่งงานของตัวเองอีก

ตอนที่เริ่มสนิทกับหนึ่งใหม่ๆ หนึ่งเป็นคนแนะนำให้ผมลองฟังแผ่นเสียงตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีคนรุ่นใหม่สนใจเล่นแผ่นเสียงเลย ผมจำโมเมนต์ต้องมนตร์ตอนที่หนึ่งเปิดแผ่นเสียงให้ผมฟังเป็นครั้งแรกได้ มันเป็นประสบการณ์การฟังเพลงในอีกมิติหนึ่งเลยทีเดียว หลายปีต่อมา เมื่อผมเริ่มเล่นแผ่นเสียงบ้าง ผมแอบคิดในใจว่าคงจะดีไม่น้อย ถ้าเพลง ‘กลางวันตื่น กลางคืนฝัน’ ถูกเอามาทำเป็นแผ่นเสียงบ้าง

จนเมื่อมันถูกหนึ่งเลือกเอามารวมในอัลบั้มนี้ในรูปแบบแผ่นไวนิล อัลบั้ม Belter5: Belter Love Song จึงเหมือนกับฝันที่กลายเป็นจริงของผม

อัลบั้มชุดนี้ผลิตออกมาแค่ 350 แผ่นเท่านั้น มันไม่ได้ถูกโปรโมตเท่าไหร่นัก แต่เข้าใจว่าปัจจุบันก็มีเหลือไม่มากแล้ว

ผมอยากแนะนำในฐานะคนที่ชอบเขียนถึงเรื่องดนตรี และในฐานะคนที่เคยแต่งเพลงจนมีผลงานเพลงกับเขาด้วย ว่าแผ่นเสียงชุดนี้เป็นอัลบั้มที่ดีงามจริงๆ นะครับ


แผ่นเสียง Belter5: Belter Love Song ยังพอมีจำหน่ายในเว็บไซต์ happeningandfriends.com ที่ลิงก์นี้

AUTHOR