ท่องโลกกรุงเทพฯ ในอีก 1,000 ปีข้างหน้า ผ่านงานศิลปะเหนือกาลเวลาของ Daniel Arsham

ท่องโลกกรุงเทพฯ ในอีก 1,000 ปีข้างหน้า ผ่านงานศิลปะเหนือกาลเวลาของ Daniel Arsham

“ตอนเรายังเป็นเด็ก เวลาดูเหมือนจะผ่านไปช้าเหลือเกิน
แต่ยิ่งเราอายุมากขึ้น ก็ดูเหมือนว่าเวลาจะเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่า ทั้งหมดนั่นเป็นภาพลวงตา ทุกอย่างมีความยืดหยุ่น
เรามีวิธีจัดการเวลาและก้าวข้ามผ่านมันไป”

แนวคิดการสร้างงานศิลปะของ ‘แดเนียล อาร์แชม’ (Daniel Arsham) ศิลปินชื่อดังชาวนิวยอร์ก ผู้รังสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยสไตล์ Contemporary หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม การสร้างพื้นที่ และการจัดเรียงวัตถุต่างๆ ที่น่าสนใจมาแล้วทั่วโลก

ทุกผลงานของเขามีแนวคิดร่วมกันอย่างหนึ่งคือเรื่อง ‘เวลา’ ที่มุ่งหน้าเดินไปในโลกอนาคต เพื่อต้องการกระตุ้นให้ผู้คนได้ฉุกคิดว่า ‘เราเป็นใคร กำลังอยู่ที่ไหน และในเวลาไหน’และเขากำลังออกแบบผลงานศิลปะครั้งแรกในประเทศไทยชื่อว่า ‘BANGKOK 3024’ ศิลปะแบบอิมเมอร์ซีฟระดับโลก ที่ได้ร่วมมือกับ ‘ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี’ ในวาระครบรอบ 10 ปีสร้างประสบการณ์สุดพิเศษในการทำผลงานศิลปะเหนือกาลเวลา ท่องโลกของกรุงเทพฯ ในอีก 1,000 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรผ่านผลงานศิลปะของเขา เราจะพาไปเจาะเบื้องหลังแนวคิดการทำงานของเขากัน

ศิลปะสไตล์แดเนียล อาร์แชมเป็นอย่างไร และสิ่งสำคัญที่สุดในผลงานของคุณคืออะไร 

ในงานของผมมีแนวคิดเรื่องเวลาอยู่ แนวคิดที่ว่าเรากำลังเดินทางไปสู่อนาคตหรือแนวคิดที่ว่าวัตถุเหล่านี้ถูกนำกลับมายังปัจจุบันจากอนาคต ความยุ่งเหยิงของเวลานี้ ผมว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับการกระตุ้นให้ผู้คนคิดว่าตัวเองเป็นใคร กำลังอยู่ที่ไหน ในเวลาไหน


ซึ่งเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำความเข้าใจงานของผม วิธีที่เราจัดเวลา วิธีการที่เราจะก้าวข้ามผ่านมันไป ทุกอย่างล้วนเป็นข้อเสนอที่มีความยืดหยุ่น ตอนที่เรายังเป็นเด็ก เวลาดูเหมือนจะผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่ยิ่งเราอายุมากขึ้น ดูเหมือนว่าเวลาจะเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่านั่นเป็นภาพลวงตาทั้งหมด งานของผมเล่นกับแนวคิดเรื่องเวลาและกรอบเวลาทางธรณีวิทยา

คุณทำงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม การสร้างพื้นที่ และการจัดเรียงวัตถุ ด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างผลงานชิ้นใหม่ที่มีความน่าสนใจ คำว่า ‘ศิลปะ’ สำหรับคุณมีความหมายว่าอย่างไร

ผมคิดว่าศิลปะเป็นการสื่อสารประเภทหนึ่ง ที่ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของวัฒนธรรมและภาษา เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเสพได้ และความหมายของมันก็ค่อนข้างเปิดกว้าง ดังนั้นผมจึงมองว่าผลงานของผมเป็นเหมือนบัตรเชิญที่จะชวนทุกคนให้เข้ามีส่วนร่วมมากกว่าอย่างอื่น

ผมคิดเสมอว่าสถานที่ที่ดีที่สุดในการค้นหางานศิลปะคือที่ที่เราไม่คาดคิด นี่คือจุดที่เราสามารถเห็นปฏิกิริยาตอบรับที่เป็นธรรมชาติที่สุด แทนที่จะรู้สึกเหมือนมาดูงานศิลปะ ก็จะกลายเป็นความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ซึ่งผมคิดว่านี่ล่ะคือสิ่งที่ศิลปะควรจะเป็น

เวลาสร้างผลงานศิลปะ คุณมักได้แรงบันดาลใจในการทำงานจากไหน 

ผมใช้เวลาไม่น้อยในเอเชียและประเพณีการจัดสวน ที่ประกอบด้วยก้อนหิน กรวดผสมกับมอสและองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งมันมีอิทธิพลกับผมมาก ผมสร้างสวนแบบนี้ไว้ 2 สวนในบ้านของผม ซึ่งผมพบว่าเป็นวิธีการสร้างสวนที่งดงามราวกับการทำงานประติมากรรม สำหรับการทำผลงานศิลปะที่ประเทศไทยในครั้งนี้ ผมได้นำแนวคิดเรื่องสวนเซนมาไว้ภายในพื้นที่ ชั้น G ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยมีงานศิลปะจัดแสดงอยู่บนแท่นภายในสวนด้วย

ซึ่งการทำงานร่วมกันกับเซ็นทรัล เอ็มบาสซีเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับผมในการเข้าถึงผู้ชมและเข้าถึงผู้คนที่อาจไม่ค่อยมีโอกาสได้ชมงานศิลปะของผม ผมพบว่าการทำงานร่วมกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา

นอกจากนี้ ผมพยายามที่จะทำให้งานของผมทำงานกับผู้ชมไม่ว่าที่ไหนในโลก เพื่อให้ผู้คนไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ นิวยอร์ก บราซิล หรือโตเกียว สามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในตัวงานได้ ผลงานทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ตัวงานอ้างอิงถึงซึ่งผู้ชมสามารถเข้าถึงได้

แรงบันดาลใจและคอนเซปต์ของงาน Bangkok 3024 คืออะไร

‘Bangkok 3024’ เกิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปีของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งในโอกาสที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซีเดินทางมาถึง 1 ทศวรรษเต็ม แทนที่จะเป็นการรำลึกถึงอดีตหรือกล่าวถึงปัจจุบัน เราจึงเลือกออกเดินไปบนเส้นทางสำรวจที่ท้าทายทั้งความคิดและกาลเวลา เพื่อพาทุกคนเดินทางสู่อนาคตในอีก 1,000 ปีข้างหน้า ในฐานะของจุดหมายปลายทางด้านศิลปะ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ 

ภายในงานคุณจะได้พบกับ ‘Excavation Walls’ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเซ็นทรัล เอ็มบาสซีโดยเฉพาะ จะถูกนำมาจัดแสดงในลักษณะของกำแพงแนวตั้งที่ดูเหมือนกำแพงคอนกรีต แต่ความเป็นจริงมันสร้างจากโพลีฟิลลาชิ้นนี้ ถูกนำมาวางซ้อนต่อกัน กลายเป็นช่องหยักขนาดใหญ่ที่ผู้ชมสามารถเดินเข้าไปชมได้ 

ส่วนผนังที่ทอดยาวผ่าน Zen Garden หรือสวนเซนที่ได้แรงบันดาลใจจากสวนในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่มีเม็ดทรายสีขาวละเอียดและมีลวดลายที่เกิดจากการใช้คราดสร้างให้สวยงาม รวมถึงประติมากรรมชิ้นพิเศษ 5 ชิ้นอย่าง Stormtrooper: Amethyst Crystallized Figure 2023, Bronze Eroded Dog with Hat, 2021, Bronze Eroded Delorean 1:3 2021, Amalgamized Venus Italica 2022, Blue Calcite Crystallized Jumping Pikachu 2021 

ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานชิ้นพิเศษถูกนำมาจัดวางอย่างกลมกลืนไปทั่วสวนเซน และอีกหนึ่งชิ้นพิเศษซึ่งผมได้ดัดแปลงบริเวณ BTS Linkage ชั้น 1 ให้กลายเป็น ‘Passage’ โดยติดตั้งจากพื้นจรดเพดานด้วยเทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ของผม เพื่อเชื่อมโยงโลกภายนอกเข้ากับอีกจักรวาลที่อยู่ภายใน ซึ่งคุณจะได้พบกับความพิเศษทั้งหมดของ ‘Bangkok 3024’ ได้ที่ชั้น G และชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี 

คุณผสมผสานเอกลักษณ์ของความเป็นกรุงเทพฯ เข้าไปในตัวงานของคุณอย่างไรบ้าง

เวลาที่ผมเดินทางมักจะเป็นเพราะผมไปทำงาน ทั้งการไปจัดนิทรรศการ หรือไปตระเตรียมโปรเจกต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม อาหาร และวัฒนธรรมของประเทศที่ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อมุมมองชีวิตและงานของผม

ผมมากรุงเทพฯ ครั้งแรกตอนที่อายุ 19 ปี ประสบการณ์ที่ผมได้รับทั้งในเมืองและในประเทศนี้ส่งผล
กระทบมากๆ กับตัวผม เมื่อคิดถึงการนำผลงานมาแสดงในประเทศไทย ก็ทำให้ผมนึกถึงการมาเยือนประเทศไทยครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเป็นปี 1999 ที่นี่แตกต่างไปมาก ผมแน่ใจว่าผมยังจำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งกลิ่นอาหารบนถนน รถตุ๊กตุ๊ก วัดวาอาราม หรือการได้อยู่บนเรือที่ล่องไปในแม่น้ำ รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์จำนวนมาก

คุณสะท้อนแนวคิดของปี 3024 ออกมาผ่านงานศิลปะของคุณอย่างไร

ในฐานะที่การแสดงผลงานครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งพัฒนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโบราณคดีสมมติของผม ผมคิดว่า ‘Bangkok 3024’ จะเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสว่า วัฒนธรรมในยุคปัจจุบันของเราอาจเปิดเผยอะไรให้เราเห็นได้บ้างหากมองผ่านเลนส์แห่งอนาคต และนี่จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ผลงานชิ้นสำคัญๆ ที่ผมสร้างสรรค์ไว้จะถูกนำมาจัดแสดงรวมกันในที่เดียว

ผลงานใน ‘Bangkok 3024’ ส่วนไหนที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุด ไม่ควรพลาด

สำหรับงาน Bangkok 3024 ดีเทลที่สำคัญที่สุดคือ พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะทั้งหมด ผมรวบรวมผลงานหลายชิ้นจากหลากหลายยุคมาไว้ด้วยกันที่นี่ และพูดได้เลยว่า พื้นที่แสดงและจัดวางผลงานก็เป็นประสบการณ์พิเศษในตัวของมันเองแล้ว

คุณอยากให้ผลงานของคุณเชื่อมโยงกับผู้ชมอย่างไร

ผมพยายามที่จะทำให้งานของผมทำงานกับผู้ชมไม่ว่าที่ไหนในโลก เพื่อให้ผู้คนไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ นิวยอร์ก บราซิล หรือโตเกียว สามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในตัวงานได้ ผลงานทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ตัวงานอ้างอิงถึงซึ่งผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ 

สำหรับคุณมองเห็นภาพกรุงเทพฯ ในปี 3024 อย่างไรบ้าง

 อย่างที่ผมได้บอก คุณต้องลองมาชมนิทรรศการนี้ แล้วดูผลงานแต่ละชิ้นอย่างใกล้ชิด คุณอาจจะได้เห็นว่าสิ่งที่คุณอาจจะได้เจอในอีก 1,000 ปีข้างหน้าในกรุงเทพฯ เป็นอย่างไร!

ชวนมาสัมผัสแสดงผลงานศิลปะเหนือกาลเวลาของแดเนียล อาร์แชม ด้วยตาคุณเองที่งาน ‘BANGKOK 3024’ การแสดงผลงานศิลปะแบบอิมเมอร์ซีฟระดับโลก จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 10 ปีของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี  โดยจะเปิดให้รับชมได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น G และชั้น 1 ติดตามข่าวสารอัปเดตและความเคลื่อนไหวอื่นๆ ในวาระพิเศษครั้งนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/centralembassy

AUTHOR