Yerin Baek ศิลปินเกาหลีคนแรกที่ทำเพลงภาษาอังกฤษฮิตติดชาร์ตสตรีมมิงเกาหลี

Highlights

  • Yerin Baek คือศิลปินเกาหลีมากความสามารถที่มีเสียงหวานนุ่มคอยปลอบประโลมคนฟัง ทำให้เพลงของเธออยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงเกาหลีฟังสบายของใครหลายคน
  • ก่อนจะย้ายมาเปิดค่ายเป็นของตัวเอง เยรินเป็นศิลปินในค่าย JYP Entertainment มาก่อน แนวเพลงส่วนใหญ่จะเป็นดนตรีฟังสบาย ทั้งแบบ lo-fi หรือเน้นใช้เปียโน กีตาร์ และเครื่องสายเป็นหลัก แต่หลังจากเริ่มทำอัลบั้มที่ 2 ในค่ายใหม่ เธอก็กระโดดออกจากคอมฟอร์ตโซนมาลองแนว synth-pop มากขึ้น
  • ที่สำคัญเธอคราฟต์ผลงานทั้งหมดเองทุกกระบวนการ ทั้งแต่งเพลงมาจากประสบการณ์ชีวิตจริง และเลือกใช้ดนตรีที่เหมาะกับเสียงร้องของตัวเองด้วย 

ตั้งแต่ติดตามฟังเพลงของศิลปินในวงการ R&B เกาหลีมาได้ 3-4 ปี เราพบว่าทุกๆ ปีเราจะได้เจอ hidden gem ใหม่ๆ ของวงการ และเอาใจช่วยให้พวกเขาออกผลงานดีๆ มาให้เราฟังเสมอ

Yerin Baek เป็นหนึ่งในนั้น เรารู้จักเธอครั้งแรกตอนที่ได้ฟังเพลง I Don’t Know ที่เยรินแต่งเองและปล่อยให้ฟังแค่ใน soundcloud เสียงหวานนุ่มเคล้าดนตรี lo-fi ทำให้เรารีบเซฟเพลงฟังสบายแบบนี้ไว้ในเพลย์ลิสต์ทันที

ตอนหลังพอได้ไปตามหาเพลงของเธอมาฟังเพิ่ม เลยได้รู้ว่าจริงๆ เธอคือสมาชิกของ 15& วงดูโอ้จากค่าย JYP Entertainment ที่ได้เดบิวต์เดี่ยวครั้งแรกในปี 2015 กับเพลง Across the Universe ที่ขึ้นชาร์ตอับดับ 7 หลังจากปล่อยเพลงและกลายมาเป็นเพลงโปรดของใครหลายคน ก่อนจะปล่อยเพลง Bye bye my blue ในปีต่อมาและทะยานขึ้นชาร์ตอันดับ 3 ทันที

แต่อุตสาหกรรมบันเทิงขับเคลื่อนด้วยนายทุน จังหวะการปล่อยเพลงของเธอจึงขึ้นอยู่กับค่าย ทั้งๆ ที่ความสามารถของเธอไม่ได้น้อยกว่าใคร ขนาดในแวดวงดนตรีเกาหลีที่มีการแข่งขันสูง ศิลปินต้องแข่งกันให้ผลงานของตัวเองขึ้นชาร์ตเพลงขนาดนี้ เยรินโดดเด่นได้ไม่ยากจากเสียงหวานๆ นุ่มๆ ที่คอยปลอบประโลมคนฟัง และที่สำคัญคือเธอเป็นหนึ่งในศิลปินหญิงเกาหลีเพียงไม่กี่คนที่ลงมือคราฟต์เพลงของตัวเองแทบทุกกระบวนท่า แถมยังมีทั้งเนื้อร้องภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีด้วย

ช่วงหลังๆ แฟนๆ อย่างเราเลยไม่ค่อยได้เห็นผลงานใหม่ๆ ของเยรินเท่าไหร่และต้องติดตามผ่าน soundcloud ที่เธอปล่อยเพลงคัฟเวอร์เป็นหลัก (มีคำชมล้นหลามว่าเธอทำได้ดียิ่งกว่าต้นฉบับเสียอีก) หรือบางครั้งเธอก็ปล่อยเพลงที่แต่งเองด้วย

คนที่ชื่นชอบเพลงของเยรินหลายคนจึงลุ้นการคัมแบ็กมาโดยตลอด จนกระทั่งในปี 2019 เยรินก็ปล่อยอัลบั้ม Our Love is Great ออกมาเป็นครั้งสุดท้ายกับค่ายใหญ่ ก่อนจะย้ายมาเปิดค่ายเพลงอิสระของตัวเองจนประสบความสำเร็จ กวาดรางวัลและขึ้นท็อปชาร์ตเพลงด้วยตัวเองจนถึงตอนนี้

หลายคนบอกว่าในยามใดที่ศิลปินเก่งๆ ออกจากค่ายเดิม พวกเขามักพิสูจน์ให้รู้ว่าตัวเองมีคุณค่าและความสามารถมากแค่ไหน สำหรับเรา เยรินเป็นอีกคนที่ช่วยยืนยันคำพูดนี้

ในวันที่ tellusboutyourself อัลบั้มที่ 2 ที่ออกกับค่ายใหม่เพิ่งปล่อยมาไม่นาน เราจึงอยากชวนทุกคนไปฟังบทเพลงจากอัลบั้มแรกหลังออกจากค่ายใหญ่จนถึงตอนนี้ ที่โชว์ให้เห็นว่าแบ็ก เยริน เป็นศิลปินที่ค่าย JYP ควรเสียดาย

Every letter I sent you.
จดหมายที่เยรินส่งถึงทุกคน

ก่อนออกจากค่าย JYP เยรินเคยเปรยผ่านโซเชียลมีเดียว่าเธอมีเพลงที่แต่งเสร็จแล้วมากมาย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยออกมา แฟนๆ หลายคนคาดการณ์ว่าเพราะมันมีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ (คนเกาหลีมีความชาตินิยมสูงมาก) หลังจากตัดสินใจออกจากค่ายใหญ่ เยรินก็เปิดค่ายเป็นของตัวเองชื่อว่า Blue Vinyl และปล่อยอัลบั้มใหญ่ครั้งแรกชื่อว่า Every letter I sent you. ที่มีแต่เนื้อร้องภาษาอังกฤษ 

ที่บอกว่าเป็นอัลบั้มใหญ่ เพราะเมื่อเทียบกับผลงานที่ผ่านมาของเธอแล้ว อัลบั้มนี้ใหญ่มากจริงๆ ศิลปินวัย 24 ปี (นับแบบเกาหลี) ขนเอาเพลงที่แต่งไว้เมื่อหลายปีก่อนมาบวกรวมกับเพลงใหม่ๆ จนได้จำนวน 18 เพลง หนึ่งในนี้มีเพียง Datoom เพลงเดียวในอัลบั้มที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาเกาหลี

“อัลบั้มนี้สะท้อนถึงความทรงจำ ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และกระบวนการคิดของฉันตั้งแต่อายุ 19 จนถึง 23 ปี ฉันดีใจมากที่สามารถส่งจดหมายถึงทุกคนได้” เยรินอธิบายเอาไว้ในโพสต์อินสตาแกรมของค่าย

ต่อให้เธอไม่เอ่ยว่านี่คือจดหมายถึงผู้ฟัง เราก็พยักหน้าเห็นด้วยกับทุกท่วงทำนองในอัลบั้ม ตั้งแต่เพลง Rest ที่เยรินเรียกร้องการพักจากเรื่องวุ่นวายมาอยู่ในพื้นที่สบายใจ (I wanna be somewhere like no need to be clear, no need to be explaining. I just wanna rest.) ในขณะเดียวกันเสียงร้องของเธอก็ปลอบประโลมให้คนฟังได้พักและรู้สึกสบายใจไปพร้อมๆ กัน วันไหนที่เราเหนื่อยกับงานหรือชีวิตมากๆ พอได้ฟังเพลงนี้แล้วก็เหมือนได้ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มๆ และร้องไห้ให้กับความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาจริงๆ 

บางเพลงก็ทำให้เห็นเยรินในฐานะคนรักที่โรแมนติกไม่น้อย อย่างในเพลง Popo (How deep is our love?) ที่แสดงให้เห็นว่าเธอชอบคนในเพลงมากแค่ไหน เราชอบท่อนที่บอกว่า Your scent makes me feel like I live in Paris. มาก อ่านแล้วดูหวานเลี่ยนเป็นที่สุด แต่ถ้าฟังจากเสียงร้องของเยรินจะรู้สึกดีมากๆ 

เพลงที่น่าจะเป็นไฮไลต์ของอัลบั้มคือ Square ซึ่งเยรินเคยร้องครั้งแรกในงานเทศกาลดนตรีเมื่อปี 2017 และถูกใจแฟนๆ มากจนเกิดเสียงเรียกร้องให้เธอปล่อยเพลงแบบออฟฟิเชียลออกมา แต่ผ่านไปหลายปีก็ดูไม่มีวี่แวว เมื่อเยรินเอามารวมในอัลบั้มนี้ ทำให้ Square เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่มาจากศิลปินเกาหลีเพลงแรกที่ไต่ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตสตรีมมิงมิวสิกยอดฮิตของคนเกาหลีได้อย่างรวดเร็ว

จุดเด่นอีกอย่างของอัลบั้ม Every letter I sent you. คือการถ่ายทอดทุกทำนองด้วยดนตรีที่มีทั้งเปียโน เครื่องสาย กีตาร์ บางเพลงเยรินทิ้งช่วงให้ดนตรีได้มีบทเด่นยาวๆ ซึ่งหาศิลปินเกาหลีที่ทำเพลงแนวนี้ออกมาได้ยากมาก หรือบางเพลงก็มีเสียงหัวเราะตอนเธออัดเพลงแทรกเข้ามาด้วย พอได้ฟังทุกเพลงจนครบทั้งอัลบั้มทำให้รู้สึกเหมือนกำลังฟังเสียงเยรินเล่นแบบสดๆ เลย

เราแอบคิดเองว่าเธอออกแบบมู้ดของอัลบั้มนี้ให้เหมาะกับการฟังผ่านแผ่นเสียง เพราะเมื่อปล่อยเพลงผ่านทางดิจิทัลในปลายปี 2019 ค่ายเพลงก็เปิดขาย Every letter I sent you. เวอร์ชั่นไวนิลมาให้แฟนๆ ได้จับจองในช่วงต้นปี 2020 ซึ่งยอดขายทั้งหมดรวมแล้วมากถึง 15,000 แผ่น 

เธอยังเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตที่แฟนๆ จองตั๋วจนเต็มทุกรอบอีกด้วย และทุกเพลงที่เยรินถ่ายทอดออกมาพร้อมดนตรีสดก็ฟีลกู้ดมากๆ (นี่แค่ฟังจากคลิปนะ) จนต้องร้องขอให้สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นสักที ฉันอยากไปฟังเยรินร้องเพลงสดๆ ในคอนเสิร์ตเร็วๆ! 

 

tellusboutyourself ความท้าทายทางดนตรีครั้งใหม่

แม้ว่าอัลบั้มแรกที่ทำเองทั้งหมดอย่าง Every letter I sent you. จะมีกลิ่นอายใกล้เคียงกับอัลบั้ม Our Love is Great ที่เคยออกกับ JYP และเพลงที่ผ่านๆ มาของเยรินอยู่บ้าง แต่ก่อนคัมแบ็กในปี 2020 เธอก็ประกาศว่าแนวดนตรีจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ในปี 2019 มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับฉันมากมาย เช่น เริ่มต้นกับค่ายใหม่ รวมถึงแนวดนตรีที่ฉันสนใจก็เปลี่ยนไปด้วย และในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ฉันได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คนใหม่ที่ไว้ใจฉัน และเชี่ยวชาญในแนวเพลงใหม่ๆ ซึ่งฉันคิดว่าจะทำให้อัลบั้มนี้มีความหลากหลายด้วย” เยรินให้สัมภาษณ์กับ Bandwagon

14 เพลงใน tellusboutyourself จึงเป็นการกระโดดออกจากมู้ดดนตรีเบาๆ มาเพิ่มจังหวะแนว synth-pop โดยยังคงเลือกเอาประสบการณ์และความคิดของตัวเองมาถ่ายทอดในเนื้อร้องอยู่

มีความกล้า 2 อย่างที่เราเห็นจากอัลบั้มนี้ คือ หนึ่ง–เยรินรู้ว่าตัวเองเป็นคนเสียงบางและเบา นั่นหมายความว่าถ้ามีบีตหนักๆ ในเพลงอาจจะกลบเสียงร้องหรือเด่นกว่าเสียงเธอได้

สอง–เนื้อร้องที่ผ่านมาใช้ประสบการณ์ส่วนตัวในชีวิตของเธอเป็นหลัก เพราะเยรินรู้ว่าตัวเองเป็นคนพูดน้อยและหวาดกลัวการทำความรู้จักคนใหม่ๆ ทำให้ใครหลายคนมองว่าเธอเป็นคนแข็งกระด้างและวิจารณ์เธอทั้งๆ ที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่ความจริงคือการแสดงออกในความคิดและความรู้สึกที่ดีของเยรินมักมาจากการถ่ายทอดผ่านการร้องเพลงมากกว่า

ถึงอย่างนั้น ในอัลบั้มที่ผ่านมา เยรินก็ไม่เคยด่าคนตรงๆ แต่ในอัลบั้มนี้เธอถ่ายทอดมันออกมาผ่านเพลง Hate you พร้อมกับเสียงบีตหนักๆ ที่เยรินไม่เคยทำมาก่อน ทำให้เปลี่ยนภาพจากการเป็นศิลปินที่โดดเด่นเพลงหวานซึ้งและท่วงทำนองช้าๆ เศร้าๆ มาเป็นเพลงจังหวะเร็วๆ หนักๆ มากขึ้น

ถ้านี่คือการทดลองออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง ท้าทายความสามารถ และแสดงความรู้สึกในสิ่งที่คิดจริงๆ เพลง Hate you การันตีว่าเธอทำได้สำเร็จจนเราคิดว่าเป็นเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้มนี้เลย

แม้ว่าดนตรีจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากจนแฟนเพลงบางคนไม่ค่อยชิน แต่เราคิดว่ายังมีบางเพลงที่คงความเป็นเยรินในเวอร์ชั่นเพลงช้าๆ ฟังสบายในอัลบั้มนี้อยู่บ้าง เช่น เพลง You’re so lonely now, so you need me back by your side again และ Hall&Oates ซึ่งแม้จะมีองค์ประกอบดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ขับเน้นให้เสียงของเธอโดดเด่นได้

หลังจากปล่อยอัลบั้มมาได้ไม่นาน tellusboutyourself ก็ทะยานสู่ท็อปชาร์ตอัลบั้มเกาหลีของบิลล์บอร์ดด้วย และอาจนับได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของเธอ เพราะรายชื่อเพลงและอัลบั้มในปี 2019 ติดโผรางวัล ทั้ง Album of the year, Best R&B/Soul Song, Top 10 Artists จากเวที Melon Music Awards และ Korean Music Awards ด้วย

นี่อาจจะไม่ใช่แค่รางวัลความสำเร็จที่ทำให้ศิลปินสาววัย 24 ปีได้รับจากการอยู่ในแวดวงดนตรีมาเกือบสิบปี แต่มันเป็นหลักฐานหนักแน่นที่พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมีความหมายต่อคนฟัง และที่สำคัญ ในแง่ธุรกิจ เพลงของเธอก็ขายได้นะ 


แหล่งข้อมูล:

ajudaily.com
bandwagon.asia
koreatimes.co.kr
seoulbeats.com
thebobaculture.com

AUTHOR