เมดอินไทยแลนด์ : archives : รวมฮิตข่าวเซอร์เรียลประจำปี 2563

เมดอินไทยแลนด์ 2563

ปี 2020 เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เราจึงขอใช้โอกาสนี้ทำลิสต์ the greatest hits ‘เมดอินไทยแลนด์’ ประจำปี ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม

พอมองกลับไป ปีแห่งโควิดนี้ยิ่งทำให้รู้สึกว่าประเทศเรานี่แหละคือท็อปออฟเดอะเบสต์สุดในโลก (เอาจริงๆ มาถึงธันวาคมก็ยังไม่หยุดพีคเลย) จนเราขอมอบเหรียญทองไว้ให้ ณ ที่นี้ แด่เหตุการณ์สุดเซอร์เรียลที่ติดอันดับทุกเหตุการณ์

 

เครื่องวัดระดับความดังของเพลงชาติ

โรงเรียนแห่งหนึ่งได้ติดตั้งเครื่องวัดระดับความดังของเสียงร้องเพลงชาติหน้าเสาธงของเด็กๆ ในโรงเรียน โดยถ้าร้องแล้วเห็นป้ายสีเขียวแปลว่าผ่าน ถ้าเห็นป้ายสีเหลืองต้องร้องอีกรอบ แต่ถ้าเห็นป้ายสีแดงแปลว่าต้องสอบซ่อม นั่นคือการให้ร้อง 3 รอบ แต่หลังจากข่าวนี้ออกไปทางโรงเรียนก็ได้ยกเลิกระบบนี้แล้ว

credit : ข่าวสด

เอ็มวีสู้โควิด

ในวิกฤตโควิดแบบนี้ ทุกภาคส่วนของเมืองไทยต้องช่วยกันต่อต้านและป้องกันไวรัสนี้ให้มากที่สุดไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม องค์กรขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้า BTS จึงไม่ได้นิ่งนอนใจและใช้วิธีการปล่อยซิงเกิลชื่อ COVID-19 ประกอบท่าเต้นสู้ไวรัส เนื้อหาเพลงมาในสไตล์ข้อมูลโบรชัวร์โรงพยาบาลว่าด้วยประวัติของเชื้อไวรัส และบอกวิธีการป้องกันตัวเองต่างๆ ปิดท้ายด้วยเอ็มวีที่ดูเหมือนเกณฑ์น้องในออฟฟิศที่เต้นเก่งๆ มารวมตัวกันเต้นไปเลย

 

แมสก์ลงยันต์กันโควิด

การต่อสู้กับโรคระบาดของเราชาวไทยไม่จำเป็นต้องเหมือนกับชาวโลก เพราะเรามีอะไรที่ดีกว่านั้นนั่นคือแมสก์ลงยันต์กันโควิด ซึ่งมีจำหน่ายจากหลากหลายสำนักอาจารย์ ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพี่น้ำฝนวัดไผ่ล้อม กับแมสก์รุ่น ‘นะปัดตลอด’ ที่มีจุดเด่นคือเป็นแมสก์ที่รวมเอายันต์พระเจ้า 5 องค์, ยันต์ครูหลวงพ่อพูล และยันต์ท้าวเวสสุวรรณมารวมไว้ในแมสก์เดียว หรือจะเป็นแมสก์จากเซียนพระขอนแก่นซึ่งนอกจากจะช่วยปัดเป่าโควิดแล้วยังมีพลังของการค้าขายมหานิยมแถมมาให้ด้วย

เมดอินไทยแลนด์ 2563

credit : matichon

credit : สยามรัฐ

สาบานต่อพระแก้วมรกตไล่โควิด

เพราะคนไข้หลายคนปิดบังประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อแก้ปัญหา โรงพยาบาลในจังหวัดสุโขทัยจึงใช้วิธีให้คนไข้กล่าวคำสาบานต่อพระแก้วมรกตและหลวงพ่อผู้ให้กำเนิดโรงพยาบาลว่าจะพูดความจริงทุกประการ มิฉะนั้นจะขอให้โรคที่คนไข้กำลังเผชิญอยู่ร้ายแรงถึงตาย ลามไปถึงคนในครอบครัวด้วย เรียกได้ว่าเป็นคำสาบานที่น่ากลัวกว่าไวรัสเสียอีก

เมดอินไทยแลนด์ 2563

credit : MGR Online

 

รวยด้วยโควิด

ตัวอย่างการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในช่วงโควิดคือชายหนุ่มเจ้าของไอเดียเอาเงินเยียวยา 5,000 บาทจากโครงการ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ ของรัฐบาลไปลงทุนธุรกิจ ขยายผลต่อกำไรด้วยการซื้อยาบ้า 200 เม็ด สร้างรายได้มากกว่า 5,000 บาท ก่อนจะโดนตำรวจรวบในที่สุด เรียกได้ว่าตำรวจปฏิบัติตามชื่อโครงการเราไม่ทิ้งกัน จริงๆ

credit : ไทยรัฐ

 

สู้โควิดด้วยฤกษ์ยาม

ประเทศอื่นใช้เกณฑ์ใดในการคลายมาตรการล็อกดาวน์ไม่รู้ แต่ที่รู้คือในช่วงล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีของไทยแถลงว่าก่อนจะยกเลิกมาตรการนี้ สิ่งที่พวกเราควรทำคือไป ‘ดูฤกษ์งามยามดี’ เสียก่อน โดยปกติการดูฤกษ์นั้นมีหลายตาราง แต่รอบนี้จะยึดฤกษ์จากหลักตำราของนายกเองซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าแกใช้ตำราไหน เอาเป็นว่ารัฐบาลสรุปแล้วว่าฤกษ์ดีของเดือนพฤษภาคม 2563 คือวันที่ 2, 3 , 10 , 17

เมดอินไทยแลนด์ 2563

credit : มติชน

 

ศีลธรรมแห่งหน้ากากอนามัย

โรงเรียนแห่งหนึ่งออกกฎให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยและ face sheild ที่มีสีสุภาพเข้ากับเครื่องแบบนักเรียน นั่นคือหน้ากากควรเป็นสีพื้น ไม่มีลวดลาย เช่น สีขาว ดำ เทา ชมพู ฟ้า เขียว มากกว่านั้นยังระบุไปอีกว่านักเรียนหญิงต้องสวมหน้ากากสีขาวและสีอ่อน ส่วนนักเรียนชายให้ใช้หน้ากากสีขาว เทา ดำ กรณีนี้น่าคิดว่าคงจะเกิดจากการที่โรงเรียนเป็นห่วงนักเรียนมากๆ เพราะหน้ากากสีสุภาพและเข้ากับเครื่องแบบนักเรียนน่าจะช่วยป้องกันเชื้อโควิดได้มากกว่าหน้ากากสีแจ๋นๆ หรือหน้ากากลายการ์ตูน

credit : orgyjelly

 

คำขวัญโรงเรียนในช่วงโควิด

โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยเพิ่งเปิดเทอมก็เลยเปิดตัวคำขวัญโรงเรียนชุดใหม่ต้อนรับเหตุการณ์โควิด โดยคำขวัญมีอยู่ว่า ‘เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัย COVID ต่อต้านยาเสพติด พิชิตยุงลาย’ คือโควิดก็ต้องสู้ ยาเสพติดก็ต้องต้าน ไหนยุงลายจะระบาดอีก ถือเป็นคำขวัญที่มัดรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ตัดสินใจไม่ได้ก็เลือกมันให้หมดเลยละ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นในตัวโรงเรียนมากขึ้น

เมดอินไทยแลนด์ 2563

credit :โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย

 

โปรโมชั่นรับโควิด

เมดอินไทยแลนด์ 2563

หลังจากมีข่าวว่าแขกต่างชาติระดับ VIP ของรัฐบาลที่เข้ามาพักผ่อนในระยองติดเชื้อโควิด ประชาชนก็เกิดความสั่นคลอนในจิตใจต่อการทำงานของภาครัฐที่ทำให้การท่องเที่ยวระยองดับวูบหลังเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ด้านภาครัฐยืนยันว่า “เฮ้ย มันไม่เป็นไร เที่ยวได้ คลีนแล้ว” แต่ด้วยความที่กลัวคนจะไม่เชื่อ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขจึงบอกในเฟซบุ๊กไปเลยว่า “ระยองโอเค มาเที่ยวได้เหมือนเดิมนะ” พร้อมแนบโปรโมชั่นท้าทายผู้บริโภคว่า “ถ้าเที่ยวระยองแล้วติดโควิด รับไปเลย 1 แสนบาท” ถือเป็นโปรฯ แนวเกมโชว์ที่รอให้ผู้ชมทางบ้านสมัครเข้าไปในรายการมากๆ ใครพร้อมจะร่วมสนุกสามารถเดินทางไประยองได้นะครับ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นผู้โชคดีรับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโควิดกลับบ้าน

เมดอินไทยแลนด์ 2563

credit : newtv18

 

รับปริญญาในเวลาแห่งโควิด

ความสำเร็จก็ต้องได้ ความปลอดภัยก็ต้องเอา ความสวยงามก็ต้องมี งานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจึงประกาศให้บัณฑิตใส่แมสก์รับปริญญาเพื่อความปลอดภัย ส่วนเรื่องรูปถ่ายนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะไม่สวย เพราะทางฝ่ายช่างภาพจะลบแมสก์ออกให้เอง เทคโนโลยีนี้สร้างความสั่นสะเทือนแก่ชาวกราฟิกดีไซน์ว่า ‘มันทำได้ด้วยเหรอวะ’ รวมไปถึงเกิดคำถามว่า ‘เอ๊ะ หรือพวกกูนั่นแหละที่เป็นคนที่ต้องรีทัช’ ยังไม่นับคำถามว่า ‘แล้วจะเอาภาพปากของบัณฑิตจากที่ไหนมาแปะลงบนรูป’ ถือเป็นบริการทางเทคโนโลยีที่ล้ำมาก ทีมงานนั่งร้องไห้แล้วนะ

credit : เบ้นสามย่าน

นายกสู้โควิด

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาฝุ่นพิษและไวรัสโคโรนาในเมืองไทยว่า “ทุกคนก็ต้องช่วยตัวเองกันบ้าง รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ทุกเรื่องหรอก ทุกคนควรจะเรียนรู้ว่าเราควรจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างไร”

credit : มติชน

 

โดยส่วนตัวผมคิดว่า 2020 เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงขั้นมหึมาในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะระดับโลกหรือในประเทศไทยของเรา ต่อจากนี้จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป เช่นเดียวกับคอลัมน์ เมดอินไทยแลนด์ ที่ผมเขียนมาเกือบ 10 ปี ซึ่งผมคิดว่าถึงแก่เวลาที่จะยุติลงที่ตรงนี้ พอดิบพอดีกับยุคสมัยและเขตแดนแห่งเวลาที่คอนเทนต์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวัน อย่างไรก็ตาม ผมจะยังทำหน้าที่ติดตามและจัดเก็บเหตุการณ์เซอร์เรียลรุ่นใหม่ของไทยที่จะออกมาในปีต่อๆ ไป และอาจจะกลับมานำเสนอมันอีกครั้งในรูปแบบใหม่ๆในอนาคต

ขอขอบคุณนิตยสาร a day ที่ให้พื้นที่คอลัมน์มายาวนานมากๆๆๆๆๆๆ

และขอให้ผู้อ่านทุกคนจับมือกันผ่านพ้นความเหนือจริงในประเทศนี้ไปพร้อมๆ กัน

เพราะเมื่อผ่านมันมาได้และมองย้อนกลับไปที่เหตุการณ์เหล่านั้นทีไรเราก็จะพบว่า

พวกเรานี่เก่งกันมากๆ เลยนะ มึงรอดกันมาได้ขนาดนี้ 

ไม่ใช่คนไทยทำไม่ได้แน่ๆ

 

นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

AUTHOR